เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความสดชื่นกับแจกันดอกไม้ที่จัดแต่งง่าย และยังช่วยมอบความสวยงามและเป็นธรรมชาติให้กับบ้านของคุณ เหมาะสำหรับใส่ช่อดอกไม้
รายละเอียดสินค้า
เหมาะใช้จัดดอกทิวลิปและดอกไม้อื่นๆ ที่มีก้านสั้น
Susan Pryke
ขนาดสินค้า
- ความสูง: 18 ซม.
- เส้นผ่านศูนย์กลาง: 15 ซม.
รีวิว
ความคิดเห็นของลูกค้า
แจกันสำหรับทุกโอกาส
ดูเหมือนว่าดอกไม้จะมีพลังวิเศษบางอย่างที่สามารถสร้างบรรยากาศและความรู้สึกที่สดใสขึ้นมาได้ในทุกวัน แต่การที่ผู้คนซื้อและใช้มันแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ Anh Linh นักพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราและเพื่อนร่วมงานของเธอเรียนรู้สิ่งนี้มาจากประสบการณ์ของตนเอง เพื่อที่จะเรียนรู้มากขึ้นไปอีก พวกเขาได้พา Ragnhildur Fjeldsted ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดดอกไม้จากไอซ์แลนด์เข้ามา เพื่อแบ่งปันความคิดหลากหลายด้านจากสถานที่ต่างๆ ในโลก เธอช่วย Anh และทีมในการหาคำตอบที่พวกเขาต้องการเพื่อสร้างแจกัน BERÄKNA/เบแร็กนา ขึ้นมา
Ragnhildur บอกว่า ในเดนมาร์ก ผู้คนมักซื้อดอกไม้สำเร็จรูปในช่อดอกไม้ที่ผูกด้วยมือ แต่ชาวดัตช์มักจะซื้อดอกไม้ช่อใหญ่ อาจจะ 20 ถึง 50 ก้าน และนำไปจัดด้วยตนเอง "พวกเขาเก่งเรื่องนั้น" เธอเสริม ในทางกลับกัน ผู้คนในเมืองลอนดอนชอบดอกไม้สำหรับวางไว้กลางโต๊ะ "แต่พวกเขาก็ยังใช้พืชพรรณสีเขียวต่างๆ อย่างใบยูคาลิปตัสหรือมอนสเตอราในการตกแต่งแจกันแก้วเพื่อบรรยากาศที่เขียวขจี"
บทเรียนในแจกันดอกไม้
ทีมงานรู้ว่า BERÄKNA/เบแร็กนา ต้องการแจกันก้านเดียว แจกันทิวลิป และแจกันลิลลี่อย่างละหนึ่ง พวกเขายังเพิ่มชาม แจกันทรงสูง และแจกันตั้งพื้นเข้ามาอีกด้วย "แจกันก้านเดียวเหมาะที่จะอยู่บนถาดกับเทียนและช่อดอกไม้เล็กๆ ฉันจึงมักจะใช้มันในปาร์ตี้ โรงแรม หรือร้านอาหารที่มีงบน้อย" Ragnhildur อธิบาย และบอกว่าแจกันทิวลิปทำให้ดอกไม้อยู่กับที่ได้ ไม่ร่วงมาลงมาด้านช้างและทำให้เกิดช่องว่าง ในขณะที่แจกันลิลลี่ช่วยทำให้ทุกอย่างสมดุลและมั่นคง เพื่อให้ดอกไม้ที่มีก้านยาวและน้ำหนักเยอะที่หัวไม่ทำให้แจกันล้มลง
เติมเต็มบ้านของคุณด้วยดอกไม้
ตอนที่พัฒนา BERÄKNA/เบแร็กนา Anh กับทีมเชื่อว่าดอกไม้เป็นส่วนสำคัญของการตกแต่งบ้าน หรือแม้แต่ในแฟชั่น มันล้วนถูกใช้เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศ ซึ่ง Ragnhildur เห็นด้วย "แค่ดูจากในนิตยสารแฟชั่น คุณก็จะประหลาดใจที่ได้เห็นว่าพวกเขาใช้ดอกไม้เยอะแค่ไหนในการถ่ายแบบ"
วัสดุ
แก้วคืออะไร
แก้วทำจากทราย โซดา และปูนขาวหลอมรวมกันในอุณหภูมิสูง การอบความร้อนหรือสารเติมแต่งอื่นๆ ช่วยให้แก้วแข็งแกร่งยิ่งขึ้นและคงทนจนบางครั้งสามารถนำออกจากช่องฟรีซไปเข้าเตาอบได้โดยไม่แตก จุดเด่นคือสามารถรีไซเคิลซ้ำๆ ได้โดยยังคงคุณสมบัติเดิมไว้ นอกจากนี้การหลอมแก้วรีไซเคิลยังใช้พลังงานน้อยกว่าการหลอมวัตถุดิบใหม่ เป้าหมายของเราคือการใช้แต่แก้วรีไซเคิลเท่านั้นในการผลิตสินค้า