11 วิธีทำให้ห้องหอมในงบประมาณจำกัด ไอเดียประหยัดแต่ได้ผลจริง!

1. ระบายอากาศด้วยการเปิดหน้าต่าง

การเปิดหน้าต่างเป็นวิธีง่ายๆ แต่มีประสิทธิภาพในการขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์และเติมอากาศบริสุทธิ์ให้กับห้อง ทำให้บรรยากาศภายในสดชื่นและปลอดโปร่ง หากภายในห้องไม่มีหน้าต่างเปิดรับลมธรรมชาติ การใช้พัดลมช่วยเป่าระบายอากาศ หรือการเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพกรองและหมุนเวียนอากาศ ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีที่จะช่วยให้ห้องสะอาดและสดชื่นอยู่เสมอ

2. ทำความสะอาดห้องอย่างสม่ำเสมอ

การดูแลรักษาความสะอาดภายในห้องอย่างสม่ำเสมอถือเป็นหัวใจสำคัญในการขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพื่อให้ห้องหอมสดชื่นอยู่เสมอ ควรเริ่มจากการจัดเก็บของให้เป็นระเบียบและนำขยะไปทิ้งทุกวัน จากนั้นให้เปิดหน้าต่างระบายอากาศอย่างน้อยวันละ 15 - 20 นาที เพื่อให้อากาศถ่ายเทและลดกลิ่นอับ ใส่ใจในการทำความสะอาดพื้น ผนัง และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เช่น โต๊ะ ตู้ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ สัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง 

รวมถึงการซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าม่านเป็นประจำ เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นละอองและเชื้อโรค ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของกลิ่นอับ การดูแลความสะอาดอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและทำให้ห้องหอมได้

พบกับชุดอุปกรณ์ทำความสะอาดอเนกประสงค์ PEPPRIG/เพปพรีก ที่รวมทุกเครื่องมือสำหรับทุกงานทำความสะอาดไว้ในชุดเดียว ไม่ว่าจะเป็นซอกมุมเล็กๆ หน้าต่าง พื้น หรือแม้แต่สิ่งสกปรกที่เข้าถึงยาก ด้วยหัวทำความสะอาดที่เปลี่ยนง่ายและด้ามจับอะลูมิเนียมปรับระดับได้ พร้อมประสิทธิภาพจากไมโครไฟเบอร์ที่ขจัดคราบได้หมดจดโดยไม่ทิ้งรอยขีดข่วนบนทุกพื้นผิว

3. ใช้เทียนหอมเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม

วิธีทำให้ห้องหอมทำได้ง่ายๆ เพียงแค่จุดเทียนหอม ด้วยกลิ่นหอมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวานิลลาที่อบอุ่น ลาเวนเดอร์ที่ผ่อนคลาย หรือกลิ่นดอกไม้นานาชนิดที่สดชื่น เทียนหอมเหล่านี้จะช่วยสร้างบรรยากาศที่นุ่มนวล ชวนให้รู้สึกสงบและสบายใจได้อย่างน่าอัศจรรย์เลยทีเดียว

จุดประกายความหอมอบอวลด้วย ADLAD/แอดลัด เทียนหอมในถ้วยแก้วดีไซน์เรียบง่าย สไตล์สแกนดิเนเวียนวูดส์ ผสานความหอมละมุนของธรรมชาติเข้ากับสีขาวสะอาดตา สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและอบอุ่นให้กับทุกมุมของบ้าน

4. ใช้พ็อตพุรี (Potpourri) ตกแต่งและเพิ่มกลิ่นหอม

ทำยังไงให้ห้องหอมฟุ้ง? เติมเสน่ห์ให้บ้านของคุณอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมละมุนและสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติด้วยพ็อตพุรี (Potpourri) การผสมผสานของดอกไม้แห้งนานาชนิด ใบไม้หอม และสมุนไพรแห้งเหล่านี้ ไม่เพียงมอบกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ให้กับห้องเท่านั้น แต่ยังเป็นของตกแต่งที่สวยงามและมีสไตล์อีกด้วย เพียงจัดวางพ็อตพุรีในชามแก้วสวย หรือใส่ในถุงผ้าโปร่ง แล้วนำไปวางไว้ในมุมต่างๆ ของบ้าน สามารถเลือกกลิ่นที่ชื่นชอบได้หลากหลาย เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและน่ารื่นรมย์ในทุกพื้นที่ของบ้าน

สร้างบรรยากาศโรแมนติกอบอวลด้วยแรงบันดาลใจจากชนบท ด้วย LUGNARE/ลูคนาเร ดอกไม้แห้งหอมกลิ่นจัสมินสีชมพู ที่ผสานความหอมละมุนของมะลิเข้ากับความสดชื่นของแพร์ ขิง และลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์ เพียงจัดวางในชามแก้วหรือแจกัน ก็เป็นของตกแต่งที่สวยงามและมอบกลิ่นหอมให้บ้านของคุณได้อย่างลงตัว

5. ใช้ถุงหอมสำหรับตู้เสื้อผ้า

ทำยังไงให้ห้องหอมฟุ้ง? ลองเติมความหอมให้กับตู้เสื้อผ้า เพื่อช่วยให้เสื้อผ้าอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมสดชื่นอยู่เสมอ การวางถุงหอมไว้ในตู้ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันกลิ่นอับที่ไม่พึงประสงค์เท่านั้น แต่ยังมอบความรู้สึกสะอาดและสดชื่นทุกครั้งที่เปิดตู้เสื้อผ้าอีกด้วย ที่สำคัญ ถุงหอมยังมีหลากหลายกลิ่นให้เลือกสรรได้ตามความชอบและสไตล์ของคุณ เพื่อให้เสื้อผ้าหอมละมุนในแบบที่เป็นคุณที่สุด

สัมผัสความหอมบริสุทธิ์ของดอกลาเวนเดอร์เต็มดอกในถุงหอม KROPPSVARM/ครอพพ์สวอร์ม ซึ่งบรรจุลาเวนเดอร์แห้งคุณภาพเยี่ยม ให้กลิ่นหอมเข้มข้นยาวนานกว่า พร้อมเคล็ดลับง่ายๆ เพียงบีบเบาๆ เพื่อปลดปล่อยความหอมสดชื่นอันเป็นเอกลักษณ์ของลาเวนเดอร์ให้ฟุ้งกระจายไปทั่วทุกพื้นที่

6. ใช้ผ้าม่านโปร่งเพื่อให้อากาศถ่ายเท

ผ้าม่านโปร่งเป็นปราการแรกที่เปิดรับสายลมและแสงแดดอ่อนๆ ให้เข้ามาสัมผัสภายในห้อง การมีผ้าม่านโปร่งจึงไม่เพียงแต่ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ลดความอับชื้น แต่ยังนำพาความสดชื่นและความปลอดโปร่งมาสู่บรรยากาศภายในบ้านอีกด้วย ด้วยดีไซน์ที่หลากหลาย ผ้าม่านโปร่งจึงเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่สามารถเลือกสรรให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งห้องได้อย่างลงตัว สร้างสรรค์พื้นที่ที่สว่าง สบาย และมีชีวิตชีวาได้ง่ายๆ เลย

SILVERLÖNN/ซิลเวอร์เลินน์ ผ้าม่านโปร่งสีขาว ที่มาพร้อมเทปผ้าม่าน ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาสร้างบรรยากาศสบายๆ ในตอนกลางวัน ขณะเดียวกันก็ยังคงความเป็นส่วนตัวด้วยเงาที่พรางสายตาจากภายนอก และด้วยวัสดุผ้าฝ้ายธรรมชาติ สัมผัสนุ่มสบาย ทนทาน ดูแลรักษาง่าย สามารถซักเครื่องได้สะดวก

7. ใช้สมุนไพรและดอกไม้สด

วิธีทำให้ห้องหอมแบบธรรมชาติทำได้ไม่ยาก เพียงนำสมุนไพรสดหรือดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมมาจัดวาง ไม่ว่าจะเป็นลาเวนเดอร์ที่ช่วยให้รู้สึกสงบ โรสแมรี่ที่ให้ความสดชื่น หรือดอกมะลิที่มีกลิ่นหอมหวานละมุน

กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่มาจากธรรมชาติเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสบายใจเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่เป็นมิตรต่อสุขภาพอีกด้วย

8. ใช้สเปรย์ปรับอากาศ

ทำยังไงให้ห้องหอมฟุ้ง? ลองเติมความหอมให้กับห้องด้วยสเปรย์ปรับอากาศกลิ่นหอมละมุน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ให้หมดไป แต่ยังช่วยเติมเต็มความสดชื่นและสร้างบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์ภายในห้อง การเลือกใช้สเปรย์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ และเป็นมิตรต่อสุขภาพของทุกคนในบ้านอีกด้วย

9. ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศและพัดลม

การดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศและพัดลมให้สะอาดอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอุปกรณ์เหล่านี้อาจเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละอองและกลิ่นอับที่ไม่พึงประสงค์ การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกไป ทำให้อากาศที่หมุนเวียนภายในห้องมีความสดชื่นและสะอาดบริสุทธิ์มากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพและสุขอนามัยของทุกคนในบ้าน

10. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ในห้อง

การสูบบุหรี่ภายในห้องเป็นสาเหตุหลักของกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่ฝังแน่นและยากต่อการกำจัด กลิ่นควันบุหรี่สามารถเกาะติดกับเฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน และพื้นผิวต่างๆ ทำให้ห้องเหม็นไปทั่ว ดังนั้น เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมภายในห้องให้สะอาดและมีกลิ่นหอม ควรหลีกเลี่ยงสูบบุหรี่ในพื้นที่ปิด หันมาใส่ใจกับการระบายอากาศและดูแลความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ห้องของคุณคงความหอมสดชื่นได้อย่างยาวนาน

11. ปลูกต้นไม้ในห้อง เพิ่มความสดชื่น

ต้นไม้ในห้องเป็นตัวช่วยในการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในห้อง ในเวลากลางวัน ต้นไม้จะทำหน้าที่ผลิตออกซิเจน ซึ่งจะช่วยให้นอนหลับได้สนิทและสบายมากขึ้น นอกจากนี้ ต้นไม้บางชนิดยังมีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษต่างๆ ที่อาจปะปนอยู่ในอากาศ ทำให้บรรยากาศในห้องนอนสะอาดและดีต่อสุขภาพมากขึ้น

การเลือกปลูกไม้ดอกที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ อย่างมะลิหรือลาเวนเดอร์ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายและส่งเสริมการนอนหลับที่ดี ลดความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญ ต้นไม้ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องลดความชื้นตามธรรมชาติ ช่วยดูดซับความชื้นส่วนเกินในอากาศ ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับห้องที่มีปัญหาเรื่องความอับชื้นหรือเชื้อรา