7 วิธีจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าให้เรียบร้อย หาง่าย หยิบสบาย ประหยัดเวลา

1. แยกเสื้อผ้าให้เป็นสัดส่วน เสื้อล้วน กางเกงล้วน

การเริ่มต้นจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าให้เป็นสัดส่วนนั้นง่ายกว่าที่คิด ขั้นตอนแรกที่สำคัญคือการแยกหมวดหมู่เสื้อผ้า ออกจากกัน ซึ่งจะช่วยให้เราหาชุดที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายมากขึ้น ซึ่งวิธีการแยกหมวดหมู่เสื้อผ้าก็มีหลากหลายวิธี ลองเลือกวิธีให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความชอบ เช่น

• แยกตามประเภทเสื้อผ้า เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด โดยแบ่งเสื้อผ้าออกเป็นหมวดหมู่ เช่น เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต กางเกงขายาว กางเกงขาสั้น กระโปรง ชุดเดรส ชุดนอน เป็นต้น จากนั้นก็แบ่งย่อยลงไปอีก เช่น เสื้อยืดแขนสั้น เสื้อยืดแขนยาว เสื้อเชิ้ตแขนยาว เสื้อเชิ้ตแขนสั้น เป็นต้น
• แยกตามเนื้อผ้า วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลเสื้อผ้าเป็นพิเศษ โดยแบ่งเสื้อผ้าตามชนิดของเนื้อผ้า เช่น เสื้อผ้าฝ้าย เสื้อผ้าลินิน เสื้อผ้าไหม เสื้อผ้าขนสัตว์ เป็นต้น การแยกตามเนื้อผ้าจะช่วยให้เราสามารถดูแลเสื้อผ้าได้อย่างถูกวิธีและยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้น
• แยกตามโอกาสในการใช้งาน แบ่งเสื้อผ้าตามสถานที่ที่เราจะไป เช่น ชุดทำงาน ชุดลำลอง ชุดออกกำลังกาย ชุดพักผ่อน หรือแยกตามฤดูกาล เช่น เสื้อผ้าฤดูร้อน เสื้อผ้าฤดูหนาว เป็นต้น
• แยกตามสี วิธีนี้จะช่วยให้ตู้เสื้อผ้าของคุณดูสวยงามและเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น โดยจัดเรียงเสื้อผ้าตามสีสัน เช่น สีขาว สีดำ สีเทา สีพาสเทล เป็นต้น
• แยกตามความถี่ในการใช้งาน แบ่งเสื้อผ้าออกเป็นกลุ่มตามความถี่ที่เราใส่ เช่น เสื้อผ้าที่ใส่บ่อยที่สุด เสื้อผ้าที่ใส่เฉพาะโอกาสพิเศษ และเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่เลย เป็นต้น

แนะนำตู้เสื้อผ้า 3 บานเลื่อน GLAMBERGET/กลัมแบเรียต ให้คุณหยิบจับได้สะดวกทุกครั้ง ไม่ต้องเสียเวลารื้อค้นให้วุ่นวาย ช่วยให้คุณมีเวลาไปทำอย่างอื่นที่สำคัญกว่ามากขึ้น

2. พับชุดเก็บ ใส่ลิ้นชัก

การจัดตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบและเป็นหมวดหมู่จะทำให้การหยิบใช้มีแต่ความสะดวก ด้วยการแบ่งเสื้อผ้าออกเป็นประเภท เช่น เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต กางเกงยีน กางเกงขาสั้น และพับเก็บไว้ในลิ้นชักหรือชั้นวางต่างๆ จะช่วยให้คุณหาเสื้อผ้าที่ต้องการเจอได้ง่ายขึ้น และยังทำให้ตู้เสื้อผ้าของคุณดูเป็นระเบียบเรียบร้อยอีกด้วย

แนะนำ ตู้ 6 ลิ้นชัก MALM/มาล์ม ดีไซน์เรียบง่ายแต่มีสไตล์ขนาดพอดี ช่วยให้คุณจัดเก็บเสื้อผ้าได้อย่างเป็นระเบียบ เป็นสัดส่วนมากขึ้น

3. ชุดไหนใส่บ่อย ห้อยด้านหน้า

สำหรับสายแฟชั่นตัวจริงที่อยากให้ตู้เสื้อผ้าของคุณสะท้อนรสนิยมสุดคูลออกมาให้โดดเด่น การจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าก็สำคัญไม่แพ้การเลือกซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ลองเริ่มต้นด้วยการแขวนชุดโปรด หรือสูทตัวเก่งไว้ในที่ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในตู้เสื้อผ้า ทุกครั้งที่เปิดตู้มาจะได้เห็นชุดโปรดเรียงรายอยู่ตรงหน้า เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่สดใสและเพิ่มความมั่นใจได้ไม่ยาก

4. ใช้กล่องเก็บชุดชั้นใน ให้เรียบร้อย

วิธีจัดตู้เสื้อผ้าด้วยกล่องจัดเก็บเป็นตัวช่วยที่ดีในการจัดระเบียบเสื้อผ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชุดชั้นใน ถุงเท้า และของชิ้นเล็กชิ้นน้อยอื่นๆ การใช้กล่องจะช่วยให้คุณแบ่งประเภทสิ่งของต่างๆ ได้ชัดเจน ทำให้หาของเจอง่ายขึ้น และยังช่วยป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าเสียรูปทรงอีกด้วย นอกจากนี้ กล่องจัดเก็บยังมีให้เลือกหลากหลายขนาดและดีไซน์ คุณสามารถเลือกแบบที่เข้ากับสไตล์การตกแต่งห้องของคุณได้เลย

แนะนำ กล่องผ้า 6 ใบ SKUBB/สกุบบ์ ที่ใช้แยกประเภทของสิ่งของได้อย่างชัดเจน เช่น ชุดชั้นใน ถุงเท้าคู่โปรด หรือแม้แต่เครื่องประดับ ทำให้คุณหาของที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ผ้าของกล่องมีความนุ่มและไม่ทำให้เสื้อผ้าเสียทรง ช่วยให้ชุดชั้นในและเสื้อผ้าของคุณคงสภาพเดิมได้นาน

5. เพิ่มชั้นแขวน ตัวเกี่ยว เก็บเครื่องประดับ

หากตู้เสื้อผ้าของคุณมีชั้นแขวนไม่เพียงพอ ลองหาชั้นแขวนเสริมมาติดตั้ง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการแขวนเสื้อผ้า โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่ต้องรีด เช่น เสื้อเชิ้ต หรือเสื้อสูท นอกจากชั้นแขวนแล้ว การใช้ตัวเกี่ยวก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการแขวนกระเป๋า หมวก หรือเครื่องประดับต่างๆ ทำให้คุณสามารถมองเห็นและหยิบใช้ได้ง่ายขึ้น 

แนะนำ แขวนบานประตู TJUSIG/ชูสสิก เพื่อเพิ่มพื้นที่แขวนเสื้อผ้าโดยไม่ต้องเจาะผนัง ที่แขวนบานประตูชนิดนี้สามารถติดตั้งได้ง่ายและไม่ทำลายบานประตู

6. แยกชุดที่นานๆ ทีใส่ ไปเก็บไว้ในกล่อง

สำหรับเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่บ่อย เช่น เสื้อกันหนาว หรือชุดทำงานที่เฉพาะเจาะจง ควรเก็บไว้ในกล่องผ้า DRÖNA/เดรินน่า เพื่อป้องกันฝุ่นและแมลง และช่วยประหยัดพื้นที่ในตู้เสื้อผ้า อาจจะติดป้ายบอกรายละเอียดของสิ่งที่เก็บไว้ในกล่องแต่ละใบเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา เป็นอีกหนึ่งวิธีเก็บเสื้อผ้าให้เป็นระเบียบ

7. ใส่ไม่ได้ ให้คัดแยกส่งต่อ

ลองดูว่าเสื้อผ้าทั้งหมดในตู้เสื้อผ้าของคุณว่ายังใส่ได้อยู่หรือไม่ ถ้ามีเสื้อผ้าที่เล็กเกินไป ใหญ่เกินไป หรือไม่ชอบแล้ว ควรคัดไปบริจาคหรือขายต่อ ซึ่งการคัดแยกเสื้อผ้าที่ไม่จำเป็นออกไป จะช่วยให้ตู้เสื้อผ้าของคุณโล่งขึ้น และง่ายต่อการจัดระเบียบ

8. ติดไฟอัจฉริยะ เปิด-ปิดอัตโนมัติ

การติดตั้งไฟอัจฉริยะในตู้เสื้อผ้า จะช่วยให้คุณมองเห็นเสื้อผ้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณที่แสงสว่างเข้าไม่ถึง ซึ่งไฟอัจฉริยะ ÖVERSIDAN/เออเวอร์ชีดาน สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดได้อัตโนมัติ ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการเปิดไฟเอง

9. แยกแขวนหมวก กระเป๋า ข้างตู้เสื้อผ้า

หากตู้เสื้อผ้ามีพื้นที่จำกัด ลองใช้พื้นที่ด้านข้างของตู้เสื้อผ้าในการแขวนหมวก หรือกระเป๋า แนะนำ ที่แขวนหมวกและเสื้อโค้ต BONDSKÄRET/บอนด์แควเรต เป็นอุปกรณ์จัดระเบียบตู้เสื้อผ้าที่สามารถแยกแขวนหมวกและกระเป๋าได้ จะช่วยให้คุณหยิบใช้ได้สะดวก และไม่ต้องเสียเวลาค้นหา