ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ชวนออกแบบ Co-Working Space ปลดปล่อยไอเดีย สร้างสรรค์พื้นที่ทำงาน

ชวนมาทำความรู้จักกับ Co-Working Space พื้นที่ทำงานยุคใหม่และเป็นที่นิยมในหมู่คนทำงานหลากหลายอาชีพ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่มีครบครันอย่างโต๊ะทำงาน อินเตอร์เน็ต ห้องประชุม และพื้นที่พักผ่อน Co-Working Space จึงเป็นพื้นที่สำหรับเหล่าพนักงานบริษัท ฟรีแลนซ์ และคนรักงานทั้งหลาย ที่สามารถเข้ามาใช้พื้นที่ทำงานและระดมความคิดร่วมกันได้อย่างอิสระ บทความนี้อิเกียเลยจะพาไปดูไอเดียการออกแบบ Co-Working Space พร้อมการตกแต่งออฟฟิศที่ใช้งานได้จริง ตอบโจทย์กับทุกธุรกิจ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเสริมมุมมองการทำงานใหม่ๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม

A Gunnared black-grey OSKARSHAMN wing chair in the home office
A Gunnared black-grey OSKARSHAMN wing chair in the home office

สาระน่าสนใจ

  • Co-Working Space คือพื้นที่ทำงานร่วมกันของคนวัยทำงาน ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้คนหลากหลายอาชีพ
  • การออกแบบภายในของ Co-Working Space จำเป็นต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น โต๊ะทำงาน เก้าอี้ทำงาน อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ห้องประชุม และพื้นที่ส่วนกลางเพิ่มเติม เพื่อสร้างพื้นที่ทำงานที่ยืดหยุ่นให้กับผู้เข้าใช้บริการ
  • อยากเริ่มต้นออกแบบ Co-Working Space แนะนำให้มาที่อิเกีย มีเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ตอบโจทย์กับการสร้าง Co-Working Space ให้สวยงาม ด้วยอุปกรณ์หลากฟังก์ชัน มีความทนทาน ใช้งานได้อย่างยาวนาน

Co-Working Space พื้นที่ทำงานร่วมกัน สร้างบรรยากาศทำงานที่ครึกครื้น

ทำความรู้จัก ‘Co-Working Space’ พื้นที่ทำงานร่วมกันของคนวัยทำงาน ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้คนหลากหลายอาชีพ ให้เข้ามานั่งทำงานภายในพื้นที่เดียวกัน การออกแบบภายใน Co-Working Space ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะทำงาน เก้าอี้ทำงาน อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ห้องประชุม และพื้นที่ส่วนกลางเพิ่มเติม เพื่อให้บรรยากาศการทำงานที่แตกต่างจากโฮมออฟฟิศ หรือออฟฟิศขององค์กรทั่วไป พื้นที่ Co-Working Space ควรมีฟังก์ชันที่ยืดหยุ่น จะเลือกใช้มุมไหนและใช้งานนานเท่าไรก็ได้

Co-Working Space กับประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม

Co-Working Space ไม่ใช่แค่พื้นที่สำหรับการทำงานทั่วๆ ไป แต่ออกแบบมาให้รองรับการทำงานที่ตอบโจทย์ผู้คนหลากหลายอาชีพ พร้อมทั้งบรรยากาศที่กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดสร้างสรรค์ Co-Working Space จึงเป็นพื้นที่ทำงานที่มีประโยชน์มากมาย เช่น

  • เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน บรรยากาศที่เหมาะกับการทำงาน ทั้งห้องประชุม อินเตอร์เน็ต โต๊ะทำงาน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ช่วยให้จดจ่อและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ความยืดหยุ่น เลือกใช้บริการได้ตามความต้องการ ไม่จำเป็นต้องผูกมัดด้วยสัญญาเช่าระยะยาว
  • ลดต้นทุน ไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์สำนักงาน หรือค่าใช้จ่ายในการเช่าหรือซื้อออฟฟิศ
  • สร้างเครือข่ายและเปิดโอกาสให้ธุรกิจ เป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้วัยทำงานได้พบปะ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้คนจากหลากหลายวงการและสาขาอาชีพที่มารวมตัวกัน

Co-Working Space พื้นที่ทำงานที่ใครก็ใช้ได้

Co-Working Space เป็นพื้นที่ที่ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนได้เข้ามาใช้งานร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็น

  • ฟรีแลนซ์ เช่น นักเขียน ดีไซเนอร์ นักวาด หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระอื่นๆ
  • บริษัทสตาร์ตอัป บริษัทขนาดเล็ก หรือธุรกิจเริ่มต้น ที่กำลังมองหาพื้นที่ทำงานที่ยืดหยุ่น ต้นทุนต่ำ
  • พนักงานบริษัท คนที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานเดิมๆ มองหาที่ทำงานที่ไม่ใช่ออฟฟิศ
  • นักศึกษา นักเรียน หรือนักศึกษา ที่มองหาพื้นที่เงียบสงบเพื่ออ่านหนังสือ หรือทำงานส่งอาจารย์

ออกแบบ Co-Working Space ให้ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

อิเกียขอแนะนำไอเดียการออกแบบ Co-Working Space ให้ตอบโจทย์ทุกการใช้งานที่หลากหลาย มาดูกันว่าออกแบบ Co-Working Space ที่ดีต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง พร้อมอุปกรณ์ที่ขาดไปไม่ได้หากอยากทำธุรกิจ Co-Working Space พื้นที่สุดยืดหยุ่นและบรรยากาศสร้างสรรค์ ตอบโจทย์คนทำงานทุกรูปแบบ!

1. โต๊ะที่ดี ต้องตอบโจทย์การใช้งาน

การออกแบบ Co-Working Space ควรมีโต๊ะทำงานที่ดี ช่วยให้ผู้ที่เข้ามาทำงานรู้สึกสบายตัวตลอดการทำงาน ควรเลือกโต๊ะขนาดพอเหมาะ รองรับการนั่งทำงานนานๆ ปรับระดับความสูงได้หลากหลายเพื่อรองรับสรีระผู้ใช้งาน และตัวโต๊ะต้องแข็งแรง ทำจากวัสดุที่ทนทานอย่างไม้หรือโลหะ 

แนะนำ UTESPELARE/อูเตสเปียลาเร่ โต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ปรับระดับได้หลากหลาย ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน หมดกังวลเรื่องโต๊ะชำรุดแม้ใช้งานอย่างหนักหน่วง ตัวโต๊ะยังมีตะแกรงด้านหลังสำหรับช่วยเก็บสายไฟให้เป็นระเบียบ

A beige FLINTAN office chair

2. เก้าอี้ต้องนั่งสบาย ไม่ปวดหลัง

มีโต๊ะที่ตอบโจทย์แล้ว ก็ต้องมีเก้าอี้ที่นั่งสบายด้วย เพราะการนั่งที่สบายตัวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้จริง ควรเลือกเก้าอี้ทำงานที่รับน้ำหนักได้มาก รองรับสรีระทั้งหลังและเอวขณะนั่งทำงานได้อย่างเหมาะสม พร้อมกับปรับระดับความสูงและองศาของพนักพิงได้ตามต้องการ ช่วยลดปัญหาอาการปวดเมื่อยหากนั่งนานๆ ที่สำคัญเลยคือควรเลือกเก้าอี้แบบที่ผลิตจากวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี 

แนะนำ FLINTAN/ฟลินตัน เก้าอี้สำนักงานพร้อมวางแขน สีสวย ดีไซน์เรียบ เข้ากับทุกดีไซน์การตกแต่ง Co-Working Space ตัวเก้าอี้สามารถปรับระดับความสูงได้หลายระดับ รวมถึงเบาะและพนักพิงหลังยังทำจากวัสดุชั้นดี ระบายอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. เบาะรองนั่ง ทำงานนานแค่ไหนก็ไม่เมื่อย

มาเพิ่มความประทับใจให้ผู้เข้าใช้งาน Co-Working Space ผ่านการออกแบบที่แสดงออกถึงความใส่ใจ ด้วยการเพิ่มเบาะรองนั่งนุ่มๆ สุดสบาย นั่งทำงานได้นานไม่รู้สึกถึงความเมื่อยล้า แนะนำให้เลือกเบาะรองนั่งที่มีความนุ่มกำลังดี สามารถรองรับน้ำหนักและโอบรับได้ทุกสรีระ และผิวสัมผัสที่ทำความสะอาดง่าย สบายตา 

แนะนำ ÄLVGRÄSMAL/เอลฟ์แกรสมอล เบาะรองนั่งโพลีเอสเตอร์นุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี ช่วยให้นั่งทำงานได้ยาวนานตลอดวัน แถมทำความสะอาดง่ายเพียงถอดปลอกหุ้มไปซัก เหมาะกับธุรกิจ Co-Working Space ที่ต้องรักษาความสะอาด เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้มาใช้บริการ

4. พื้นที่ทำงานส่วนตัว ระยะห่างเหมาะสม

อีกหนึ่งข้อสำคัญสำหรับการออกแบบ Co-Working Space คือควรมอบความเป็นส่วนตัวให้ผู้ใช้งาน โดยการจัดวางโต๊ะหรือพื้นที่ทำงานให้มีระยะห่างที่เหมาะสม (ประมาณ 2 เมตร) หรือจัดที่นั่งทำงานแบบที่เว้นที่ เพื่อลดเสียงรบกวน ลดความรู้สึกอึดอัด ตัดปัญหาเรื่องสิ่งรบกวนต่างๆ ที่อาจมารบกวนสมาธิของผู้ใช้งานออกไป

5. มีพื้นที่ประชุม สำหรับการทำงานเป็นกลุ่ม

การออกแบบ Co-Working Space ที่ดี ไม่ใช่แค่โต๊ะทำงานแบบเดี่ยวเท่านั้น แต่ต้องมีห้องประชุมเพื่อรองรับการทำงานแบบกลุ่มด้วย เพื่อสร้างพื้นที่สำหรับพบปะ พูดคุยแลกเปลี่ยนกันเกี่ยวกับเนื้องานโดยไม่รบกวนผู้ใช้งาน Co-Working Space คนอื่นๆ ภายในห้องประชุมยังควรมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น จอโปรเจคเตอร์ ไวท์บอร์ด และระบบเสียงที่ดี เพื่อสงเสริมให้บรรยากาศการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพตลอดการใช้งาน

6. พื้นที่สีเขียว หล่อเลี้ยงความสดชื่น

พื้นที่สีเขียวเป็นองค์ประกอบที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับการออกแบบ Co-Working Space เพราะเป็นจุดที่จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย สดชื่น และกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ การได้ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ ได้มองต้นไม้สีเขียวสด ยังช่วยลดความเครียดจากงานได้อีกด้วย แนะนำให้เพิ่มต้นไม้ขนาดเล็ก หรือสร้างสวนขนาดย่อมเป็นมุมเล็กๆ สำหรับพักสายตา ลองหามุมเหมาะๆ จัดวางให้สวยงาม เพิ่มความสดใสสบายตาได้ แต่ก็ไม่กินพื้นที่ทำงานมากเกินไป

แนะนำ PERSILLADE/แพร์ชิลลาเด กระถางต้นไม้ดีไซน์เรียบหรู เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์การตกแต่ง เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับ Co-Working Space ง่ายๆ ด้วยกระถางต้นไม้ที่แข็งแรง ใส่ต้นไม้ได้หลายแบบ และเข้ากับการตกแต่งห้องทำงานทุกประเภท

7. แสงธรรมชาติสะท้อนบรรยากาศ จุดประกายความคิด

แสงจากธรรมชาติจะช่วยให้พื้นที่ทำงานดูสว่างและมีชีวิตชีวา ขับให้บรรยากาศการทำงานดูอบอุ่น พร้อมกระตุ้นไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ แถมยังช่วยบำรุงสุขภาพจิต ลดความเครียดจากงานหนักได้เป็นอย่างดี ในการออกแบบ Co-Working Space จึงควรคำนึงถึงการนำแสงธรรมชาติเข้ามา ด้วยการเพิ่มหน้าต่างบานใหญ่หรือมีหน้าต่างเยอะๆ เพื่อเปิดรับแสงจากภายนอก

A clear glass VARDAGEN glass

8. แสงสว่างพอดี ไม่ทำให้ตาล้า

นอกจากแสงสว่างจากธรรมชาติแล้ว ควรมีแสงสว่างที่เหมาะสมในยามค่ำคืน เพื่อป้องกันอาการตาล้าจากการจ้องจอในพื้นที่แสงน้อย แต่ก็ควรระวังเรื่องแสงไฟที่มากเกินไปจนทำให้แสบตาด้วยเช่นกัน การออกแบบ Co-Working Space ควรมีหลอดไฟที่ให้แสงสีขาวนวล กระจายแสงได้อย่างสม่ำเสมอ เป็นมิตรต่อดวงตา ไม่ทำให้เกิดอาการตาล้า หรือแสบตาได้ง่าย

แนะนำ SOLHETTA/ซูเฮตต้า หลอดไฟ LED แสงสีวอร์มไวท์ ให้แสงสว่างแบบนวลตาให้กับตัวห้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับ Co-Working Space ที่กำลังมองหาตัวเลือกหลอดไฟถนอมสายตา เปิดได้ทั้งวันโดยไม่กินไฟ

9. เพิ่มโซฟาขนาดใหญ่ ใช้พักผ่อน

การออกแบบ Co-Working Space ไม่ใช่แค่การสร้างมุมทำงานหรือห้องประชุมที่มีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ควรมีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ ให้ผู้เข้าใช้งานได้ละสายตาออกจากหน้าจอแล้วมานั่งพักสบายๆ บนโซฟาเพื่อเติมพลังก่อนกลับไปสู้กับงานต่อด้วย

แนะนำ EKTORP/เอียคทอร์ป โซฟา 3 ที่นั่งขนาดใหญ่ พร้อมที่พักแขน เบาะนุ่ม นั่งสบาย ระบายอากาศได้ดี และทำความสะอาดง่าย หมดปัญหาเรื่องเชื้อโรคสะสม

จะเห็นว่า Co-Working Space คือพื้นที่ทำงานยุคใหม่ ที่น่าสนใจสำหรับพนักงานหรือองค์กรที่มองหาความยืดหยุ่นในการทำงานเป็นอย่างมาก เรียกว่าเหมาะกับทุกสายอาชีพและตอบโจทย์ผู้ใช้บริการหลายกลุ่ม จะเป็นวัยทำงานเช่นคนทำงานประจำที่มองหาพื้นที่ทำงานแบบใหม่ ฟรีแลนซ์ที่หาพื้นที่พบปะ แลกเปลี่ยนความคิด หรือกลุ่มนักเรียนและนักศึกษาที่ต้องการพื้นที่อ่านหนังสือหรือทำโปรเจกต์สำคัญ การออกแบบ Co-Working Space ให้ตอบโจทย์กับลูกค้าที่หลากหลายจึงสำคัญ ทั้งที่นั่งทำงานหลายรูปแบบ ห้องประชุมที่รับรองการทำงานแบบกลุ่ม และมุมพักผ่อนระหว่างวันที่ไม่ควรมองข้าม

อยากเริ่มต้นออกแบบ Co-Working Space แนะนำให้มาที่อิเกีย ที่นี่มีเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง และของใช้ ที่เหมาะสมสำหรับการออกแบบพื้นที่ Co-Working Space ให้มีความน่าสนใจ ด้วยอุปกรณ์ที่ใช้งานได้หลากหลายฟังก์ชันและยังทนทาน ใช้งานได้นาน ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกกลุ่มอย่างแน่นอน