เลือกเก้าอี้คาเฟ่อย่างไรให้ใช่ ทั้งฟังก์ชันและสไตล์สำหรับร้านของคุณ!
เก้าอี้คาเฟ่ไม่ใช่แค่เฟอร์นิเจอร์ธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้กับร้านกาแฟอย่างมีเอกลักษณ์ เก้าอี้ที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันไม่เพียงแค่ให้ความสบายกับผู้ใช้งาน แต่ยังเป็นศิลปะแห่งการตกแต่งที่สะท้อนตัวตนของร้านได้ ความสำคัญของเก้าอี้คาเฟ่จึงมากกว่าแค่ที่นั่ง แต่คือประสบการณ์ที่ลูกค้าจะจดจำไปตลอด
เก้าอี้คาเฟ่ยอดนิยม เช่น เก้าอี้คาเฟ่มินิมอลสะอาดตา เก้าอี้ไม้คาเฟ่สุดอบอุ่น เก้าอี้คาเฟ่แบบมีพนักพิงสูงสำหรับนั่งนานๆ เก้าอี้บาร์ เก้าอี้หวาย เก้าอี้เบาะผ้า หรือเก้าอี้แบบโปร่งใส มาเลือกเก้าอี้ร้านคาเฟ่ที่เหมาะกับร้านของคุณกัน!

สาระน่าสนใจ
- เก้าอี้คาเฟ่เป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบร้าน ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความสวยงามแต่ยังส่งเสริมการใช้งานและสร้างความประทับใจให้ลูกค้าในทุกครั้งที่มา
- เก้าอี้คาเฟ่มีหลายสไตล์ที่สะท้อนบุคลิกของร้าน เช่น เก้าอี้คาเฟ่มินิมอลที่เน้นดีไซน์เรียบง่ายและสีโทนอ่อน สไตล์อินดัสเทรียลที่ใช้วัสดุเหล็กและไม้เปลือยให้บรรยากาศดิบเท่ และสไตล์โฮมมี่ที่เน้นความอบอุ่นด้วยวัสดุไม้สีอ่อนและเส้นสายโค้งมน เป็นต้น
- เมื่อต้องเลือกเก้าอี้คาเฟ่ ควรใส่ใจทั้งวัสดุและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ในด้านความทนทาน การดูแลรักษาง่าย และเหมาะกับการใช้งานระยะยาว เพื่อการลงทุนที่คุ้มค่าและยั่งยืน
- สำหรับใครที่กำลังมองหาเก้าอี้ร้านคาเฟ่คุณภาพดี ดีไซน์หลากหลาย ในราคาที่เหมาะสม อิเกียเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องสไตล์และฟังก์ชันได้อย่างครบครัน
แอบส่อง 7 แบบเก้าอี้คาเฟ่สุดฮิต! พร้อมดีไซน์โดนใจสายคาเฟ่
ก่อนจะเลือกเก้าอี้คาเฟ่ที่ใช่สำหรับร้านของคุณ ลองมาดูแบบเก้าอี้ฮิตๆ ที่กำลังมาแรงกันก่อนดีกว่า แต่ละแบบมีเอกลักษณ์และความน่าสนใจที่แตกต่างกันไป รับรองว่าจะช่วยเติมเต็มบรรยากาศร้านได้อย่างลงตัวแน่นอน!
1. เก้าอี้คาเฟ่มินิมอล
เก้าอี้คาเฟ่มินิมอลเป็นที่นิยมมากในยุคนี้ เพราะดีไซน์เน้นความเรียบง่ายแต่ดูดี มีเส้นสายที่สวยงามไม่ซับซ้อน โทนสีที่ใช้มักจะเป็นสีเอิร์ธโทนอบอุ่น หรือขาวดำคลาสสิก ทำให้เข้ากับร้านเกือบทุกแนวและไม่ตกยุค
นอกจากนี้ สไตล์มินิมอลยังเน้นให้ความสะดวกสบายและฟังก์ชันการใช้งานที่ตรงใจ เหมาะกับลูกค้าที่ชอบบรรยากาศสบายๆ แต่ยังคงความเท่ในแบบฉบับคาเฟ่สมัยใหม่
2. เก้าอี้ไม้คาเฟ่
เก้าอี้ไม้คาเฟ่ก็ยังได้รับความนิยมไม่ตกเทรนด์ เพราะให้ความรู้สึกอบอุ่นและใกล้ชิดกับธรรมชาติที่แตกต่างจากเก้าอี้วัสดุอื่นๆ เส้นสายและลวดลายของเนื้อไม้ช่วยสร้างบรรยากาศสบายๆ ที่เป็นกันเอง เหมาะสำหรับร้านที่ต้องการถ่ายทอดความเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์เฉพาะตัว
นอกจากนี้ ไม้ยังมีความทนทานและดูแลรักษาง่าย ทำให้เก้าอี้ไม้คาเฟ่กลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ทั้งในแง่ดีไซน์และการใช้งานจริง
3. เก้าอี้คาเฟ่แบบมีพนักพิงสูง
เก้าอี้คาเฟ่ที่มาพร้อมกับพนักพิงสูงได้รับความนิยมเพราะตอบโจทย์ลูกค้าที่อยากนั่งนานๆ พนักพิงสูงช่วยรองรับหลังและลำคอ เพิ่มความผ่อนคลายและลดความเมื่อยล้าเมื่อใช้งานนานๆ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหราและเต็มเปี่ยมไปด้วยสไตล์ให้กับร้านกาแฟ
เหมาะกับร้านที่เน้นความสะดวกสบายและบรรยากาศอบอุ่น อย่างเช่นเก้าอี้ไม้ยางพาราหรือเก้าอี้บาร์ที่บุด้วยหนังเทียมที่มีดีไซน์โมเดิร์นเข้ากับร้านอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเสริม เช่น ที่วางเท้า เพื่อการนั่งที่ผ่อนคลายยิ่งขึ้น และวัสดุที่ทนทานแข็งแรงใช้งานได้นาน
4. เก้าอี้บาร์
เก้าอี้บาร์เป็นเก้าอี้ทรงสูงที่มักใช้คู่กับโต๊ะสูงหรือเคาน์เตอร์ในร้านกาแฟ บาร์ หรือครัวที่บ้าน เพราะดีไซน์ที่สูงกว่าปกติช่วยให้สะดวกในการนั่งและเข้าถึงโต๊ะได้ง่าย เก้าอี้บาร์มีหลายแบบ ทั้งแบบที่ปรับระดับความสูงได้และแบบที่มีพนักพิงหรือไม่มีพนักพิง
นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดพื้นที่และเพิ่มมุมมองเปิดโล่ง ทำให้พื้นที่ดูโปร่งสบาย เหมาะสำหรับลูกค้าที่ชอบนั่งพักผ่อนหรือนั่งสังสรรค์ได้อย่างสบายตัว อีกทั้งวัสดุและดีไซน์ที่หลากหลายก็ช่วยเติมเต็มความโดดเด่นให้กับร้านได้อย่างลงตัวอีกด้วย
YNGVAR/ยิงวาร์ เก้าอี้บาร์สีแอนทราไซต์ แข็งแรงทนทาน ผ่านมาตรฐานสำหรับการใช้งานในที่สาธารณะ มีที่นั่งกว้างพร้อมดีไซน์โค้งมนรองรับสรีระทั้งที่นั่งและพนักพิง ให้ความรู้สึกสบายขณะนั่ง นอกจากนี้ยังสามารถแขวนเก้าอี้บนโต๊ะได้ง่าย ทำความสะอาดพื้นสะดวก ดีไซน์เรียบง่ายสะอาดตา

- ไปหน้าข้อมูลสินค้า

- ไปหน้าข้อมูลสินค้า
5. เก้าอี้หวาย
เก้าอี้หวายเป็นเก้าอี้ที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกเป็นธรรมชาติและอบอุ่นให้กับคาเฟ่ได้เป็นอย่างดี ด้วยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์และสีสันที่สดใส สบายตา มักทำจากวัสดุหวายหรือวัสดุสังเคราะห์ที่เลียนแบบหวาย ทำให้มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย เหมาะกับร้านที่ต้องการสร้างบรรยากาศสบายๆ แบบบ้านสวนหรือคาเฟ่กลางแจ้ง
นอกจากนี้ดีไซน์ที่เป็นมิตรต่อสายตายังช่วยให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายและอยากนั่งนานๆ อีกด้วย ทำให้เก้าอี้หวายกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคาเฟ่ที่เน้นความเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์เฉพาะตัว
TOLKNING/โทลค์นิง ม้านั่งผลิตด้วยมือจากหวายธรรมชาตินุ่มนวล ให้ลุคอบอุ่นน่าใช้งาน พร้อมฟังก์ชันที่ซ่อนที่เก็บของเพื่อช่วยจัดระเบียบบ้านให้เรียบร้อย ไม่เพียงเพิ่มพื้นที่นั่ง แต่ยังเพิ่มความสะดวกด้วยพื้นที่เก็บของที่ใช้งานได้จริง
6. เก้าอี้เบาะผ้า
เก้าอี้เบาะผ้าเป็นตัวเลือกที่ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลและความสบายให้กับคาเฟ่ได้อย่างดี เบาะผ้าที่หุ้มเนื้อผ้าไม่เพียงแต่ช่วยลดความแข็งกระด้างของบรรยากาศภายในร้าน แต่ยังสร้างความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง
นอกจากนี้ยังมีหลากหลายสีสันและลวดลายให้เลือก จึงช่วยเติมเต็มสไตล์และบุคลิกของร้านได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับคาเฟ่ที่ต้องการให้ลูกค้านั่งพักผ่อนนานๆ และยังง่ายต่อการทำความสะอาดเมื่อเปรียบเทียบกับเบาะหนัง เพราะผ้ามีความยืดหยุ่นและระบายอากาศได้ดีกว่า
7. เก้าอี้แบบโปร่งใส
เก้าอี้แบบโปร่งใสเป็นดีไซน์ที่ทันสมัยและโดดเด่นไม่เหมือนใคร เหมาะกับคาเฟ่ที่ต้องการสร้างบรรยากาศโปร่ง โล่งและเปิดกว้าง มักใช้วัสดุอย่างอะคริลิกใสซึ่งมีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง ทนทาน และทำความสะอาดง่าย
ความใสของเก้าอี้ช่วยให้พื้นที่ดูไม่อึดอัดและเข้ากับสไตล์การตกแต่งได้หลายแบบ ทั้งโมเดิร์น คลาสสิก หรือมินิมอล เก้าอี้แบบนี้ยังเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดสายตาและช่วยเพิ่มความรู้สึกทันสมัยให้กับร้านได้ดี เหมาะสำหรับลูกค้าที่ชอบบรรยากาศแบบเปิดและสบายตา
รวมวัสดุเก้าอี้คาเฟ่ เลือกให้ถูก ฟังก์ชันครบ เหมาะกับการใช้งาน
ก่อนจะตัดสินใจเลือกชุดเก้าอี้คาเฟ่สำหรับร้านของคุณ ลองมารู้จักวัสดุแต่ละประเภทที่นิยมนำมาผลิตเก้าอี้กันก่อนดีกว่า แต่ละแบบมีจุดเด่นและฟังก์ชันการใช้งานต่างกันไป ไม่เพียงแค่เรื่องดีไซน์ แต่รวมถึงเรื่องความทนทานและบรรยากาศในร้านด้วย เลือกให้เหมาะสมเพื่อให้ลูกค้านั่งสบายและร้านดูมีสไตล์มากขึ้น

- ไปหน้าข้อมูลสินค้า
ไม้จริง
ไม้จริงเป็นวัสดุยอดนิยมที่ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและเป็นธรรมชาติให้กับคาเฟ่ ลายไม้ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์แต่ละชิ้นทำให้เก้าอี้ไม้ดูมีชีวิตชีวาและโดดเด่น นอกจากนี้ ไม้จริงยังมีความทนทานแข็งแรง เหมาะสำหรับการใช้งานในระยะยาว อีกทั้งยังง่ายต่อการซ่อมแซมหรือปรับปรุงเมื่อต้องการเปลี่ยนลุคใหม่ๆ
วัสดุไม้จริงสามารถเลือกทั้งไม้ยางพารา ไม้สัก หรือไม้เนื้อแข็งอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันไปตามงบประมาณและสไตล์ร้าน นอกจากนี้ สีธรรมชาติของไม้ยังช่วยเพิ่มความรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง และช่วยให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายในบรรยากาศที่เป็นมิตร เหมาะกับร้านที่เน้นความเรียบง่ายและใกล้ชิดธรรมชาติ
แนะนำเก้าอี้ไม้คาเฟ่ HÄGERNÄS/แฮเกอร์เนส เก้าอี้สตูลทำจากไม้สน มาพร้อมที่จับด้านบน ช่วยให้เคลื่อนย้ายง่ายและสะดวก วางซ้อนกันได้ดี จึงประหยัดพื้นที่ เหมาะสำหรับเตรียมไว้รองรับลูกค้าที่มาเพิ่มโดยไม่เกะกะพื้นที่ร้าน
ไม้ลามิเนต
ไม้ลามิเนต ไม้ลามิเนตเป็นอีกหนึ่งวัสดุยอดนิยมที่ถูกเลือกใช้กับเก้าอี้คาเฟ่ยุคใหม่ ด้วยจุดเด่นเรื่องน้ำหนักเบา จึงสะดวกต่อการเคลื่อนย้ายและจัดวางในร้านได้ง่าย ไม่รู้สึกเทอะทะหรือหนักมือเมื่อเปลี่ยนตำแหน่ง นอกจากนี้ ไม้ลามิเนตยังมีราคาที่ย่อมเยาเมื่อเทียบกับไม้จริง เหมาะกับร้านที่ต้องการควบคุมงบประมาณแต่ยังอยากได้ลุคคล้ายไม้ธรรมชาติ
อีกทั้งผิววัสดุของลามิเนตยังทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ดูดซึมคราบต่างๆ และดูแลง่ายจึงช่วยให้เก้าอี้ดูใหม่อยู่เสมอ เหมาะกับการใช้งานในคาเฟ่ที่ต้องรองรับลูกค้าในแต่ละวันจำนวนมากและต้องการลงทุนอย่างคุ้มค่า
โลหะ
เก้าอี้คาเฟ่วัสดุโลหะเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนทาน เหมาะกับการใช้งานในระยะยาว รับแรงกระแทกได้ดี และทนไฟได้ในระดับหนึ่ง ทำให้มั่นใจได้ว่าการใช้งานในร้านที่มีลูกค้าเยอะๆ จะคุ้มค่าและปลอดภัย โครงเหล็กเก้าอี้มักจะผ่านการเคลือบป้องกันสนิม จึงง่ายต่อการทำความสะอาดและดูแลรักษา
อีกทั้งยังมีดีไซน์โมเดิร์นทันสมัย เหมาะกับร้านที่ต้องการลุคเท่ๆ แข็งแกร่ง แม้จะให้ความรู้สึกแข็งและเย็น แต่ก็เติมเต็มบรรยากาศได้อย่างลงตัว พร้อมรองรับน้ำหนักผู้ใช้งานได้ดีอีกด้วย
พลาสติก
เก้าอี้คาเฟ่ที่ผลิตจากพลาสติกเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกยอดนิยม ด้วยความหลากหลายของสีสันที่สดใสและการออกแบบที่มีความทันสมัย เก้าอี้พลาสติกมีน้ำหนักเบา ทำให้เคลื่อนย้ายหรือจัดวางได้สะดวก เหมาะกับร้านคาเฟ่ที่ชอบเปลี่ยนบรรยากาศหรือปรับเลย์เอาต์ได้ตามใจ
นอกจากนี้ พลาสติกยังทนต่อน้ำและความชื้น ดูแลรักษาง่าย ไม่ลอก ไม่ผุพัง สามารถใช้ได้ดีทั้งในพื้นที่ Indoor และ Outdoor ทั้งยังมีรูปทรงที่หลากหลาย เข้ากับร้านทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่สไตล์ลอฟต์ มินิมอล หรือสวนกลางแจ้ง จึงเหมาะกับร้านที่เน้นความคุ้มค่าและปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้อย่างอิสระ
หวายสังเคราะห์
หวายสังเคราะห์มีรูปลักษณ์คล้ายหวายธรรมชาติ ดูอบอุ่นและเป็นมิตร แต่มีความทนทานต่อแสงแดดและฝนได้มากกว่า ไม่ผุง่ายเหมือนหวายแท้ เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่กลางแจ้งหรือคาเฟ่ที่ต้องการบรรยากาศเป็นธรรมชาติแต่ไม่อยากกังวลเรื่องการดูแลรักษา
วัสดุหวายสังเคราะห์ยังมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย และทำความสะอาดสะดวก ทำให้ตอบโจทย์ร้านคาเฟ่ที่ต้องรองรับลูกค้าจำนวนมากๆ และต้องการใช้งานได้นานๆ ทั้งยังคงความสวยงามและเอกลักษณ์ตามแบบฉบับหวายอยู่เสมอ
อะคริลิก
อะคริลิกเป็นวัสดุที่ทันสมัยและโดดเด่น ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง ช่วยให้ร้านดูทันสมัยและกว้างขวางมากขึ้น เหมาะสำหรับคาเฟ่ที่ต้องการบรรยากาศโมเดิร์น ที่สำคัญยังมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบใสที่มีกลิ่นอายของความเรียบหรู หรือแบบสีสันสดใสที่เพิ่มความสนุกสนานให้กับพื้นที่
นอกจากนี้ เก้าอี้อะคริลิกยังมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวก และสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย จึงเหมาะกับร้านที่เน้นความสะดวกและต้องการดูแลรักษาเก้าอี้ให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับร้านคาเฟ่สมัยใหม่ที่ต้องการทั้งความสวยงามและฟังก์ชันในการใช้งาน
ผ้ากำมะหยี่
ผ้ากำมะหยี่เป็นวัสดุที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหราและความนุ่มนวลให้กับเก้าอี้คาเฟ่ ด้วยเนื้อผ้าที่หนานุ่ม มีความเงางามทำให้เก้าอี้ดูมีมิติและมีเสน่ห์ เหมาะสำหรับร้านคาเฟ่ที่ต้องการลุคพรีเมียมและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ผ้ากำมะหยี่ไม่เหมาะกับการใช้งานนอกสถานที่หรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เพราะเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราและเสียหายง่าย การดูแลรักษาค่อนข้างพิถีพิถัน ต้องเลี่ยงโดนน้ำหรือแสงแดดโดยตรง จึงเหมาะกับใช้ตกแต่งพื้นที่ภายในร้านที่ต้องการความสวยงามและสัมผัสที่หรูหรามากกว่า
ไม้ผสมพลาสติก
ไม้ผสมพลาสติก หรือที่รู้จักในชื่อ Wood Plastic Composite (WPC) เป็นวัสดุที่รวมเส้นใยไม้ธรรมชาติเข้ากับพลาสติก ทำให้ได้วัสดุที่ให้ความรู้สึกและเหมือนไม้แท้ แต่มีความทนทานมากกว่า ไม่ผุ ไม่บิดงอ และใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก เหมาะสำหรับคาเฟ่ที่ต้องการความสวยงามเป็นธรรมชาติแต่ไม่อยากเสียเวลาดูแลรักษาเหมือนไม้จริง
WPC ยังมีข้อดีที่ไม่ต้องทาสีหรือเคลือบบ่อยๆ ทนแดดฝนและปลวกได้ดี น้ำหนักเบา และทำความสะอาดง่าย ทำให้เป็นเก้าอี้ที่ดูดีและใช้งานได้นานคุ้มค่า นอกจากนี้การผลิต WPC ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะใช้วัสดุจากรีไซเคิลอีกด้วย เป็นทางเลือกที่ลงตัวสำหรับคาเฟ่ยุคใหม่ที่ต้องการรักษ์โลก
7 ไอเดียการจัดวางชุดเก้าอี้คาเฟ่ให้เข้ากับสไตล์ร้าน
ก่อนจะลงมือจัดวางชุดเก้าอี้คาเฟ่ของคุณ ลองมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสไตล์การจัดวางที่เหมาะสมกับลักษณะร้านและบรรยากาศที่ต้องการจะสื่อ เพราะการจัดวางไม่ใช่แค่เรื่องของการวางเฟอร์นิเจอร์ แต่ยังส่งผลต่อความรู้สึกของลูกค้าและการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ

- ไปหน้าข้อมูลสินค้า
1. คาเฟ่มินิมอล (Minimal Café)
สำหรับคาเฟ่มินิมอล การเลือกใช้เก้าอี้ที่มีขาเหล็กทรงบาง หรือเก้าอี้ไม้ที่มีพนักพิงเตี้ย จะช่วยให้ลุคของร้านดูเรียบง่ายและทันสมัย โทนสีหลักที่ควรใช้คือ ขาว เทา ดำ หรือไม้ธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นแต่ไม่รกสายตา การจัดวางโต๊ะ-เก้าอี้ควรเว้นระยะห่างพอสมควร เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเป็นส่วนตัวและสบายขณะนั่ง
นอกจากนี้ อาจเพิ่มผ้าคลุมโต๊ะสีเอิร์ธโทนช่วยเพิ่มความนุ่มนวลให้กับบรรยากาศโดยรวม ทั้งยังง่ายต่อการทำความสะอาดและดูแลรักษา ช่วยส่งเสริมความเรียบง่ายแบบมินิมอลได้ดี
2. คาเฟ่สไตล์โฮมมี่ (Homey Café)
ถ้าอยากให้คาเฟ่ดูอบอุ่นเหมือนนั่งชิลในบ้านตัวเอง ลองเลือกแต่งคาเฟ่สไตล์โฮมมี่ด้วยชุดเก้าอี้คาเฟ่ที่มีพนักพิงสูงและเบาะหุ้มผ้าหรือกำมะหยี่ เพื่อความนุ่มนวลและนั่งสบาย ใช้โต๊ะกลมเล็กหรือโต๊ะไม้เก่าที่นำมาปรับโฉมใหม่ วางเก้าอี้มุมใกล้หน้าต่างหรือบริเวณที่มีต้นไม้และแสงธรรมชาติส่องถึง เพื่อให้ลูกค้าได้ผ่อนคลายสายตา พร้อมรับความสดชื่นจากแสงแดดและสีเขียวของใบไม้
โทนสีเฟอร์นิเจอร์ควรเน้นโทนอุ่นอย่างน้ำตาล เบจ หรือเทาอ่อน ใช้ผ้าคลุมแบบลายเรียบ หรือเพิ่มหมอนอิงใบเล็กๆ เพื่อความเป็นกันเอง ตกแต่งด้วยโคมไฟ กระถางต้นไม้ หรือรูปภาพโทนอบอุ่น ให้เป็นมุมที่เหมาะสำหรับนั่งจิบกาแฟและเป็นมุมถ่ายรูปสุดชิคที่ลูกค้าจะต้องหลงรัก
HÄGERNÄS/แฮเกอร์เนส โต๊ะบาร์พร้อมเก้าอี้บาร์ 4 ตัว ผลิตจากไม้สนธรรมชาติที่ทนทานและสวยงาม เหมาะกับคาเฟ่สไตล์โฮมมี่ หากต้องการเพิ่มความนุ่มสบายและสไตล์เฉพาะตัว สามารถเสริมเบาะรองนั่งที่มีให้เลือกตามความชอบได้

- ไปหน้าข้อมูลสินค้า
3. คาเฟ่แนวศิลปะ (Artistic Café)
คาเฟ่แนวศิลปะคือพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ความคิดสร้างสรรค์โลดแล่นอย่างอิสระ การเลือกเก้าอี้หลากสี หลายทรงในร้านเดียวกันจึงช่วยเพิ่มชีวิตชีวาและสื่อถึงความแตกต่างที่น่าสนใจ เก้าอี้เหล็กพ่นสีสด หรือเก้าอี้ลายเรโทรที่มีดีไซน์เฉพาะตัว จะกลายเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดสายตาและสร้างเอกลักษณ์ให้ร้าน
นอกจากนั้น ควรจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในหลายมุมให้ดูโดดเด่น ชวนให้อยากถ่ายรูปลงโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นโซนที่ใช้เก้าอี้สีตัดกัน หรือจัดเรียงหมุนสลับจังหวะ โทนของร้านควรเต็มไปด้วยกลิ่นอายความสนุก ลูกค้าจะได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ทุกครั้งที่มา เหมาะสำหรับคนรักศิลปะและสายถ่ายรูปที่กำลังมองหาคาเฟ่ไม่ซ้ำใคร
เพิ่มสีสันสดใสด้วย POÄNG/พัวแอง อาร์มแชร์พร้อมสตูลวางเท้าสีส้มสด ผ้าหุ้มทำจากนวัตกรรมโพลีเอสเตอร์ KNISA ที่ผ่านการฉีดสีลงเส้นด้าย ทำให้เนื้อผ้าทนทานและนุ่มสบายเมื่อสัมผัส
4. คาเฟ่สไตล์วินเทจ (Vintage Café)
คาเฟ่สไตล์วินเทจโดดเด่นด้วยเสน่ห์แห่งอดีตที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความทรงจำ เลือกใช้เก้าอี้ไม้คาเฟ่ที่มีพนักพิงโค้งมน หรือเก้าอี้เหล็กดัดลวดลายคลาสสิก เพื่อสะท้อนความเป็นวินเทจแบบดั้งเดิม การจัดโต๊ะและเก้าอี้ในร้านควรเน้น “ความไม่สมมาตร” คือใช้เก้าอี้คนละแบบแต่โทนสีหรือวัสดุเข้ากัน เพื่อสร้างบรรยากาศเป็นกันเองและแฝงกลิ่นอายศิลป์สมัยก่อน
วางคู่กับโต๊ะไม้เก่าขัดสี กระจกโบราณ หรือโคมไฟตั้งพื้นสไตล์เรโทร เติมเต็มความรู้สึกย้อนยุคให้สมบูรณ์แบบ อาจเพิ่มกิมมิกเล็กๆ อย่างผ้าปูโต๊ะลูกไม้หรือแจกันดอกไม้แห้งให้มุมที่นั่งดูอบอุ่น เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการนั่งพักผ่อนและดื่มด่ำกับกลิ่นอายเก่าๆ ในแบบร่วมสมัย
5. คาเฟ่สไตล์อินดัสเทรียล (Industrial Café)
คาเฟ่สไตล์อินดัสเทรียลโดดเด่นด้วยบรรยากาศที่ดิบ เท่ และเรียบง่าย ให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่ในโรงงานรีโนเวท การเลือกใช้เก้าอี้เหล็กหรือเก้าอี้ไม้ผสมโครงเหล็กสีดำด้านช่วยเสริมลุคดิบนี้ได้อย่างลงตัว โต๊ะไม้ท็อปหนาๆ กับเก้าอี้เหล็กแบบไม่มีเบาะเป็นตัวเลือกที่เพิ่มความแข็งแรงและความเท่ให้ร้าน
การจัดวางแบบแถวตรงหรือเคาน์เตอร์บาร์ช่วยสร้างบรรยากาศเป็นระเบียบและใช้งานได้จริง สไตล์นี้ชูความงามของวัสดุที่เป็นธรรมชาติและโครงสร้างเหล็กที่เปิดเผยอย่างไม่ปิดบัง สื่อถึงความทนทานและความเรียบง่ายอย่างมีสไตล์ เหมาะกับร้านที่ต้องการสร้างบรรยากาศทันสมัยและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน
6. คาเฟ่ริมสวน (Garden Café)
คาเฟ่ริมสวนเหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบบรรยากาศธรรมชาติและความสดชื่น เลือกใช้เก้าอี้หวาย หรือเก้าอี้เหล็กพ่นสีขาวที่มีลวดลายอ่อนช้อย จะช่วยเน้นความอ่อนโยนและเข้ากับบรรยากาศร่มรื่น การจัดวางชุดโต๊ะเก้าอี้ท่ามกลางต้นไม้ ริมบ่อน้ำเล็กๆ หรือแนบกับแปลงดอกไม้จะยิ่งเสริมความผ่อนคลายให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในสวนส่วนตัว
สำหรับพื้นที่กลางแจ้งควรเลือกชุดเก้าอี้แบบมีร่มสนาม หรือจัดโซนใต้ซุ้มไม้เลื้อยเพื่อให้ร่มเงาและเพิ่มความสะดวกสบาย เหมาะกับการนั่งจิบกาแฟ ทานขนมไปพร้อมกับการชมวิวสวน ช่วยเติมเต็มกลิ่นอายธรรมชาติและความเป็นกันเองให้คาเฟ่จนกลายเป็นมุมโปรดของคนรักบรรยากาศสวน
7. คาเฟ่สไตล์เจแปนดิ (Japandi Café)
คาเฟ่สไตล์เจแปนดิเป็นการผสมผสานระหว่างความเรียบง่ายแบบญี่ปุ่นและสแกนดิเนเวียที่เน้นฟังก์ชันใช้งานจริงและความอบอุ่นจากวัสดุธรรมชาติ ภายในร้านใช้เก้าอี้ไม้คาเฟ่ทรงเรียบ โดยเลือกสีไม้ธรรมชาติหรือเบจอ่อนที่ช่วยสร้างบรรยากาศสงบ การจัดวางเก้าอี้คู่กับโต๊ะไม้เตี้ยในพื้นที่กว้างขวางเน้นความโล่งสบายและความเรียบง่าย เพื่อต้อนรับลูกค้าในบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นกันเอง
นอกจากนี้ยังใช้พรมปูพื้นหรือเบาะรองนั่งเสริม ทำให้มุมพักผ่อนดูอบอุ่นและเพิ่มสัมผัสสบายใจ เหมาะกับร้านที่ต้องการสไตล์สะอาดตาแต่ยังคงความอบอุ่นแบบโฮมมี่ในเวลาเดียวกัน
เคล็ดลับการดูแลเก้าอี้คาเฟ่ให้ใช้งานได้นาน
การดูแลรักษาชุดเก้าอี้คาเฟ่อย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น และยังสวยสดงดงามเหมือนเดิม ทำตามเคล็ดลับง่ายๆ ต่อไปนี้ได้เลย เพื่อให้เก้าอี้คงทนและพร้อมใช้งานเสมอ
- ทำความสะอาดเก้าอี้อย่างสม่ำเสมอ โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดเช็ดฝุ่นและคราบสกปรก เพื่อป้องกันการสะสมที่ทำลายวัสดุ
- ใช้อุปกรณ์ที่อ่อนโยน เช่น ผ้านุ่ม หรือแปรงขนอ่อน สำหรับเก้าอี้ผ้าหรือวัสดุที่บอบบาง หลีกเลี่ยงการใช้ของมีคมขูดขีด
- เลี่ยงให้เก้าอี้โดนแสงแดดจัดนานๆ เพราะจะทำให้สีซีดจางและวัสดุเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- ระวังความชื้น ไม่วางเก้าอี้ในที่ที่มีน้ำขังหรือโดนฝนตรงๆ โดยเฉพาะเก้าอี้ไม้หรือผ้ากำมะหยี่ ที่เสี่ยงบวมหรือเกิดเชื้อรา
- ซ่อมแซมรอยขีดข่วนเล็กๆ ทันที เช่น การใช้ดินสอสีไม้หรือขี้ผึ้งสำหรับเก้าอี้ไม้ เพื่อป้องกันความเสียหายลุกลาม
- ใช้น้ำยาหรือผลิตภัณฑ์ดูแลเฉพาะวัสดุตามคำแนะนำ เช่น น้ำยาทำความสะอาดหนังสำหรับเก้าอี้หนัง และหลีกเลี่ยงสารเคมีที่ทำลายวัสดุ
- จัดเก็บเก้าอี้อย่างเหมาะสมเมื่อไม่ใช้งาน ช่วยลดความเสียหายจากการกระแทกและฝุ่นละออง
การเลือกเก้าอี้คาเฟ่ควรคำนึงถึงทั้งเรื่องสไตล์และฟังก์ชันการใช้งานเพื่อสะท้อนตัวตนของร้านและเพิ่มความน่าสนใจให้กับบรรยากาศ เก้าอี้ที่ดีต้องนั่งสบาย แข็งแรงทนทาน และเหมาะสมกับพื้นที่ร้าน ทั้งความสูงและขนาดที่พอดีช่วยให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายและประทับใจ นอกจากดีไซน์ที่เข้ากับคอนเซปต์ร้านแล้ว วัสดุที่เลือกใช้ก็ควรดูแลรักษาง่ายและมีอายุการใช้งานยาวนาน
การลงทุนในเก้าอี้คุณภาพสูงพร้อมบริการหลังการขายดี จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและทำให้ร้านคาเฟ่โดดเด่นและน่าจดจำในสายตาลูกค้า การจัดวางเก้าอี้ให้เหมาะสมกับสไตล์ร้านยังเสริมบรรยากาศให้ลูกค้ารู้สึกสบาย พร้อมถ่ายรูปแชร์ลงโซเชียล
หากคุณกำลังมองหาชุดเก้าอี้คาเฟ่คุณภาพ ที่มาพร้อมดีไซน์หลากหลายและบริการครบวงจร อิเกียมีเฟอร์นิเจอร์สำหรับธุรกิจคาเฟ่โดยเฉพาะ ทั้งโซลูชันสำหรับคาเฟ่เล็กไปจนถึงคาเฟ่ขนาดใหญ่ พร้อมให้คุณเริ่มต้นเปิดร้านในฝันอย่างมั่นใจ
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
เก้าอี้คาเฟ่ควรมีขนาดเท่าไร?
ขนาดมาตรฐานของเก้าอี้คาเฟ่มักมีความกว้างประมาณ 45 - 55 เซนติเมตร ความสูงจากพื้นถึงที่นั่งอยู่ที่ 40 - 45 เซนติเมตร เพื่อให้นั่งสบายและเหมาะกับโต๊ะสูงประมาณ 75 เซนติเมตร ขนาดนี้ช่วยให้ลูกค้านั่งได้อย่างผ่อนคลายไม่อึดอัด
เลือกเก้าอี้คาเฟ่แบบไหนให้เหมาะกับร้านขนาดเล็ก?
ร้านขนาดเล็กควรเลือกเก้าอี้ที่มีดีไซน์โปร่งและน้ำหนักเบา เช่น เก้าอี้อะคริลิก หรือเก้าอี้ไม้ลามิเนตทรงเรียบง่ายที่ไม่กินพื้นที่ในการวาง เพื่อให้ร้านดูโปร่งโล่งและสามารถเคลื่อนย้ายจัดวางได้ง่าย เพิ่มพื้นที่ให้ลูกค้าได้มากขึ้นโดยไม่รู้สึกแออัด
ต้องใช้เก้าอี้กี่ตัวถึงจะเหมาะกับร้านขนาด 20 ตร.ม.?
โดยทั่วไป คาเฟ่จะจัดสรรพื้นที่สำหรับแต่ละลูกค้าอย่างน้อย 1 - 1.2 ตร.ม. สำหรับเก้าอี้และโต๊ะ การมีพื้นที่รวม 20 ตร.ม. จึงสามารถวางชุดโต๊ะและเก้าอี้ได้ประมาณ 15 - 18 ตัว ขึ้นอยู่กับขนาดโต๊ะและการจัดวางเพื่อความสะดวกสบายและการเดิน
สร้างบรรยากาศที่ใช่ให้กับธุรกิจของคุณ
ออกแบบพื้นที่ทำงาน ร้านอาหาร หรือโรงแรมของคุณให้มีสไตล์ พร้อมข้อเสนอพิเศษจาก IKEA Business