เคล็ดลับดับกลิ่นในบ้านสูตรธรรมชาติ ทำง่าย ได้ผลจริง!
บ้านที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์มักสร้างความรำคาญและทำให้คนในบ้านไม่มีความสุขในการใช้ชีวิตประจำวัน การดับกลิ่นในบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้บรรยากาศภายในสดชื่นและน่าอยู่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอับชื้น กลิ่นอาหารติด หรือกลิ่นอื่นๆ ที่สะสมในบ้าน เทคนิคดับกลิ่นในบ้าน ให้ใช้วัสดุดูดกลิ่นธรรมชาติ น้ำมันหอมระเหย เบกกิงโซดาโรยบนพรมหรือโซฟา หมั่นเปลี่ยนผ้าม่าน พรม ปลอกหมอน และใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ระบายอากาศได้ดี
การรู้จักวิธีจัดการกลิ่นเหล่านี้อย่างถูกต้องและปลอดภัยจึงช่วยเปลี่ยนบ้านของคุณให้กลายเป็นพื้นที่ที่ผ่อนคลายและสะอาดสะอ้านอีกครั้ง มาดูเคล็ดลับเด็ดๆ ในการดับกลิ่นภายในบ้านเพิ่มเติมกัน!
สาระน่าสนใจ
- วิธีดับกลิ่นเหม็นในบ้านควรเริ่มต้นจากการหาสาเหตุที่แท้จริงของกลิ่นและจัดการให้ตรงจุด เพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นนั้นกลับมาอีกครั้ง เช่น ท่อระบายน้ำอุดตันหรือพื้นที่อับชื้นที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์
- การใช้วัสดุธรรมชาติอย่างเบกกิงโซดา ถ่านไม้ หรือสมุนไพรอบแห้งช่วยดูดซับกลิ่นและลดความชื้นได้ดี และยังไม่ทำลายสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
- แต่ละห้องในบ้าน เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือห้องแอร์ มีสาเหตุของกลิ่นต่างกัน จึงควรใช้เทคนิคและวิธีจัดการกลิ่นเฉพาะ เช่น ระบายอากาศหรือทำความสะอาดจุดที่เป็นต้นเหตุในแต่ละห้อง
- เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ช่วยระบายอากาศได้ดี หรืออุปกรณ์เสริมอย่างขวดน้ำมันหอมระเหย สามารถสร้างบรรยากาศหอมสดชื่นในบ้านและดับกลิ่นได้อย่างยาวนาน
- เลือกอุปกรณ์และของตกแต่งที่ช่วยดับกลิ่นในบ้านแบบครบวงจร ทั้งปลอดภัย หรือจะนำไปตกแต่งเพื่อความสวยงามก็ได้ มาช้อปได้ที่อิเกีย เพื่อบ้านที่น่าอยู่และมีกลิ่นหอมสดชื่นตลอดเวลา
ดับกลิ่นในบ้านให้ตรงจุด ต้องเริ่มจากหาสาเหตุ
- ห้องน้ำ เป็นจุดที่มักเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ง่ายๆ อ่างล้างหน้าและท่อระบายน้ำที่อุดตันหรือสกปรกอาจเป็นต้นเหตุ พรมเช็ดเท้าก็ต้องดูแลให้แห้งและสะอาดเพื่อป้องกันกลิ่นอับ
- ห้องครัว ที่กลิ่นมักมีสาเหตุจากถังขยะที่เก็บเศษอาหารหรือซอกตู้ที่ไม่ค่อยได้ทำความสะอาด รวมถึงเตาไฟฟ้าที่อาจมีคราบอาหารติด ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ง่าย
- ห้องนอนและห้องแอร์ กลิ่นอาจสะสมจากพรม ผ้าม่าน หมอน หรือโซฟาที่ได้รับความชื้นหรือไม่ได้ทำความสะอาดบ่อยๆ การดูแลและซักล้างอย่างสม่ำเสมอจึงสำคัญมาก
- ระเบียงและโถงทางเดิน มักมีกลิ่นเกิดจากรองเท้าเปียกหรือเก็บไม่เป็นที่ รวมถึงต้นไม้ในกระถางที่มีความชื้นสูงซึ่งอาจทำให้เกิดกลิ่นอับและกลิ่นดินได้
วิธีดับกลิ่นอับในห้องแอร์ บอกลากลิ่นไม่พึงประสงค์
กลิ่นอับในห้องแอร์เป็นปัญหาที่หลายคนต้องเจอ แม้จะเปิดแอร์เพื่อความเย็นสบาย แต่ถ้ากลิ่นเหม็นยังอยู่ก็ทำให้บรรยากาศไม่สดชื่นได้ มาบอกลากลิ่นอับชื้นด้วยวิธีดับกลิ่นอับในห้องแอร์กัน!
1.เบกกิงโซดา
เบกกิงโซดานับเป็นไอเทมเด็ดที่ช่วยดูดซับกลิ่นอับในห้องแอร์ได้ดี เพียงแค่โรยผงเบกกิงโซดาลงบนพรมหรือโซฟาในห้องแอร์ จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้ทำปฏิกิริยาในการดูดซับกลิ่น แล้วค่อยใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดออก วิธีนี้ถือว่าทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องใช้สารเคมี และยังช่วยลดความชื้นที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นอับได้อีกด้วย
2. ถ่านไม้
ถ่านไม้เป็นตัวช่วยวิธีธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากในการกำจัดกลิ่นชื้นและกลิ่นอับ วิธีดับกลิ่นอับในห้อง แอร์เพียงแค่นำถ่านไม้ไปวางในภาชนะเปิดฝา แล้วตั้งไว้ตามมุมห้องแอร์หรือบริเวณที่มีปัญหากลิ่นแรงๆ เพื่อดูดซับความชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้อากาศภายในห้องสดชื่นขึ้น เป็นวิธีง่ายๆ และประหยัดค่าใช้จ่าย เหมาะสำหรับคนรักสิ่งแวดล้อมด้วย
KROPPSVARM/ครอพพ์สวอร์ม ถุงดอกไม้แห้งหอมที่บรรจุดอกลาเวนเดอร์แห้งเต็มดอก ให้กลิ่นหอมเข้มข้นและยาวนานกว่าถุงที่ใช้ดอกหั่นละเอียด กลิ่นลาเวนเดอร์ช่วยให้ห้องหอมสดชื่นและรู้สึกผ่อนคลาย เพียงแค่บีบถุงหอมแน่นๆ สัปดาห์ละครั้งเพื่อกระตุ้นให้น้ำมันหอมระเหยปล่อยกลิ่นออกมาต่อเนื่อง รับรองว่ากลิ่นหอมยังคงอยู่ได้นานและสดชื่นทุกครั้ง

- ไปหน้าข้อมูลสินค้า
3. สมุนไพรแห้ง
วิธีเติมเต็มความหอมแบบธรรมชาติและดูแลสุขภาพไปในตัว คือการใช้สมุนไพรแห้ง เช่น ใบเตยแห้ง ตะไคร้แห้ง หรือเปลือกส้ม นำมามัดใส่ถุงผ้าบางเล็กๆ แล้ววางไว้ตามตู้เสื้อผ้าหรือหัวเตียงในห้องแอร์ กลิ่นหอมสดชื่นของสมุนไพรจะช่วยกลบกลิ่นอับและเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายให้กับห้อง พร้อมเสริมบรรยากาศที่อบอุ่นและน่าอยู่ให้มากขึ้นไปอีก
LUGNARE/ลูคนาเร ดอกไม้แห้งหอมในโทนจัสมินและชมพู พร้อมกลิ่นหอมละมุนของมะลิ แพร์ ขิง และลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์ เติมเต็มบรรยากาศโรแมนติกด้วยแรงบันดาลใจจากชีวิตชนบท ใส่ในชามแก้วหรือแจกันสวยงาม ไม่เพียงเป็นของตกแต่งที่เพิ่มเสน่ห์ให้บ้าน แต่ยังมอบกลิ่นหอมละมุนให้บ้านน่าอยู่อย่างลงตัวอีกด้วย
4. น้ำมันหอมระเหย
เพิ่มความหอมและความสดชื่นได้อีกระดับด้วยน้ำมันหอมระเหยแบบหยดใส่ถ้วยเล็กๆ หรือใส่ในเครื่องพ่นกลิ่นหอม น้ำมันหอมระเหยมีหลากหลายกลิ่น ไม่ว่าจะเป็นลาเวนเดอร์ หรือเปปเปอร์มินต์ มีคุณสมบัติช่วยดับกลิ่นอับและสร้างบรรยากาศสบายๆ ในห้องแอร์ได้ดีเลย แถมยังช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย เหมาะกับคนชอบบรรยากาศสดชื่นแบบเป็นธรรมชาติ
5. สเปรย์ปรับอากาศ
สเปรย์ปรับอากาศก็ถือเป็นตัวช่วยปรับอากาศที่สะดวกและรวดเร็ว มีหลายกลิ่นให้เลือกใช้ตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นผลไม้ ดอกไม้ หรือสมุนไพร สเปรย์ชนิดนี้ก็ช่วยระงับกลิ่นไม่อับ หรือกลิ่นพึงประสงค์ได้ทันที แนะนำให้พ่นในห้องแอร์หรือบนผ้าพรมแบบพอดี และควรเลือกสเปรย์ที่ไม่มีกลิ่นฉุนเกินไป ให้สบายจมูกและไม่สะสมสารเคมีในอากาศ
ADLAD/แอดลัด เทียนหอมในถ้วยแก้ว กลิ่นสแกนดิเนเวียวูดส์จากดอกไม้แห้ง มอบบรรยากาศอบอุ่นและรู้สึกคุ้นเคยเหมือนอยู่ในป่าสแกนดิเนเวีย ด้วยกลิ่นซิตรัสเปรี้ยวซ่อนอยู่ ผสมผสานความสดชื่นของไม้สนไซเปรสและกลิ่นอำพัน เหมาะสำหรับสร้างบรรยากาศธรรมชาติในบ้าน
Life Hack! วิธีดับกลิ่นห้องน้ำที่ใช้ได้ผลจริง
ห้องน้ำเป็นเหมือนมุมพักผ่อนเล็กๆ ของบ้าน แต่ถ้ามีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ก็ทำให้เสียบรรยากาศได้ไม่น้อย ไปรู้จักวิธีดับกลิ่นห้องน้ำที่ทำได้จริง ด้วยวัตถุดิบใกล้ตัวง่ายๆ ที่ช่วยคืนความสดชื่นให้กับห้องน้ำ

- ไปหน้าข้อมูลสินค้า
1. น้ำส้มสายชูดับกลิ่นท่อ
น้ำส้มสายชูมีฤทธิ์ช่วยสลายคราบและแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นเหม็นในท่อระบายน้ำ ให้ผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วนกับน้ำเปล่า 1 ส่วน แล้วเทลงในท่อระบายน้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีเพื่อให้น้ำส้มสายชูทำงานได้เต็มที่ จากนั้นล้างท่อด้วยน้ำร้อน วิธีนี้จะช่วยลดกลิ่นอับและกลิ่นเหม็นได้ดี และยังป้องกันท่ออุดตันที่อาจทำให้กลิ่นกลับมาอีกด้วย
2. เบกกิงโซดาผสมมะนาว
เบกกิงโซดามีคุณสมบัติช่วยดูดซับกลิ่นและขจัดคราบสกปรก เมื่อนำมาใช้ร่วมกับมะนาวซึ่งมีกรดธรรมชาติและกลิ่นหอมสดชื่น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากขึ้น เพียงโรยเบกกิงโซดารอบๆ โถสุขภัณฑ์ แล้วบีบมะนาวตามลงไป ทิ้งไว้สัก 15 - 20 นาที ก่อนใช้แปรงขัดเบาๆ และล้างออกด้วยน้ำสะอาด กลิ่นเหม็นจะลดลงพร้อมคราบต่างๆ ก็จะถูกทำความสะอาดไปด้วย
3. เครื่องหอมดับกลิ่น
เครื่องหอมประเภทกลิ่นมินต์หรือยูคาลิปตัส เป็นวิธีดับกลิ่นห้องน้ำชั้นดีที่จะเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นสบายจมูก และช่วยกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ลองวางเครื่องหอมไว้ใกล้โถสุขภัณฑ์หรือมุมที่มีกลิ่นสะสมเยอะๆ กลิ่นธรรมชาติของเครื่องหอมจะช่วยให้ห้องน้ำไม่มีกลิ่นแปลกๆ ให้คุณได้เข้าห้องน้ำทีไรก็รู้สึกสะอาดและสบายใจทุกครั้ง เหมาะกับคนที่อยากได้กลิ่นหอมยาวนานแบบไม่ต้องหาทำอะไรให้ยุ่งยาก
GLANSLIND/กลอนสลินด์ เทียนหอม 2 ไส้ในถ้วยแก้ว ดีไซน์สวย พร้อมกลิ่นสโมกกี้วานิลลาและไลท์เบจที่อบอุ่นนุ่มนวล เมื่อตัวเทียนหมดแล้ว แก้วสามารถนำไปใช้เก็บของเล็กๆ น่ารักได้ ขี้ผึ้งในเทียนทำมาจากพืชอย่างน้อย 50% ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
4. กากกาแฟ
กากกาแฟมีความสามารถพิเศษในการดูดซับกลิ่นได้ดีเลยทีเดียว นอกจากจะใช้ดับกลิ่นในห้องน้ำแล้ว ยังเหมาะกับการกำจัดกลิ่นทาสีหรือกลิ่นอื่นๆ ในบ้านด้วย เพียงนำกากกาแฟแห้งใส่ในภาชนะเปิด แล้ววางไว้ในมุมต่างๆ ของห้องน้ำ กากกาแฟจะช่วยดูดซับกลิ่นอับและกลิ่นเหม็นไม่พึงประสงค์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ใครไม่ชอบกลิ่นหอมฉุนจมูกต้องถูกใจสิ่งนี้แน่นอน!
5. ใช้สารฟอกขาวเทลงโถสุขภัณฑ์
สารฟอกขาวเป็นวิธีที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้น้ำยาฟอกขาวประมาณ 1 ถ้วยตวง เทลงในโถสุขภัณฑ์ ทิ้งไว้ 15 - 30 นาที จากนั้นใช้แปรงหรือฟองน้ำที่ทนน้ำยาฟอกขาวขัดทำความสะอาดให้ทั่วโถส้วม แล้วกดน้ำหลายๆ รอบจนสารฟอกขาวหมดไป วิธีนี้ควรทำเป็นประจำทุก 2 สัปดาห์ จะช่วยให้กลิ่นฉุนและกลิ่นไม่พึงประสงค์หายไปได้ในระยะยาว และยังทำให้โถสุขภัณฑ์สะอาดขึ้นด้วย
6. ตกแต่งด้วยต้นไม้ช่วยฟอกอากาศ
วิธีดับกลิ่นเหม็นในบ้าน โดยเฉพาะในห้องน้ำด้วยการนำต้นไม้ฟอกอากาศ เช่น ลิ้นมังกร พลูด่าง หรือยางอินเดีย มาวางไว้ในห้องน้ำ ไม่เพียงแต่ช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ แต่ยังช่วยเพิ่มความสดชื่นและความสวยงามให้กับพื้นที่ห้องน้ำด้วย ต้นไม้เหล่านี้ช่วยฟอกอากาศและเพิ่มออกซิเจน ทำให้ห้องน้ำของคุณดูมีชีวิตชีวาและน่าใช้งานทุกครั้งที่เข้าไป
วิธีดับกลิ่นห้องครัวอย่างปลอดภัย
วิธีดับกลิ่นห้องครัวอย่างปลอดภัยนั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แม้กลิ่นอาหารและความชื้นจะสะสมจนทำให้ครัวมีกลิ่นไม่ดี การเลือกใช้วิธีธรรมชาติและจัดการอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ครัวหอมสดชื่นและน่าใช้งานขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีหรือกลิ่นสังเคราะห์เลย
1. ต้มเปลือกส้มหรืออบเชย
เริ่มต้นดับกลิ่นห้องครัวด้วยการนำเปลือกส้ม หรืออบเชยมาต้มในน้ำร้อน เพื่อปล่อยกลิ่นหอมธรรมชาติที่ช่วยกลบกลิ่นอาหารติดครัวได้อย่างดี เทคนิคนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ครัวหอมสดชื่น แต่ยังสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลายให้กับห้องครัวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ปราศจากกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นฉุน นอกจากนี้ กลิ่นจากเปลือกส้มและอบเชยยังช่วยลดกลิ่นคาวติดมือได้อีกด้วย
2. น้ำส้มสายชูในถ้วยเปิดฝา
วิธีต่อมา แค่ตั้งถ้วยน้ำส้มสายชูไว้ในห้องครัวหรือใกล้ถังขยะ กลิ่นน้ำส้มสายชูที่ระเหยออกมาจะทำหน้าที่ดูดซับกลิ่นแรงๆ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ถือว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยและทำได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้สารเคมีใดๆ แถมยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางส่วนที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นเหม็นได้อีกด้วย
3. ใช้พัดลมดูดอากาศหรือเปิดหน้าต่าง
การระบายอากาศถือเป็นวิธีการสำคัญในการกำจัดกลิ่นห้องครัว เมื่อเปิดพัดลมหรือหน้าต่าง จะช่วยให้อากาศหมุนเวียนได้ดีขึ้น ลดความชื้นสะสมและป้องกันการเกิดกลิ่นอับหรือเชื้อราที่เป็นต้นตอของกลิ่นไม่พึงประสงค์ อีกทั้งยังช่วยทำให้กลิ่นจากอาหารติดครัวถูกพัดพาออกไปได้อีกด้วย
4. ปลูกสมุนไพรดูดกลิ่น
สมุนไพรหอมๆ อย่างตะไคร้ ใบสะระแหน่ หรือโหระพา เหมาะมากสำหรับการปลูกในครัว เพราะนอกจากจะเติมเต็มกลิ่นหอมสดชื่นให้กับบรรยากาศภายในห้องครัวแล้ว พืชสมุนไพรเหล่านี้ยังช่วยดูดซับกลิ่นไม่ดีต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นผักสดติดครัวที่มีประโยชน์มากสำหรับนำไปใช้ประกอบอาหาร ไม่ต้องไปซื้อให้เปลืองเงิน เรียกได้ว่า มีแต่ได้กับได้จริงๆ
5. เปลือกส้มโอ เปลือกส้ม ลดกลิ่นถังขยะ
ลองใส่เปลือกส้ม หรือเปลือกส้มโอลงไปในถังขยะ จะช่วยกลบกลิ่นเหม็นจากเศษอาหารได้ดีเลย เพราะกลิ่นจากน้ำมันหอมระเหยในเปลือกจะกระจายตัว จึงช่วยลดกลิ่นเหม็นและทำให้ถังขยะดูน่าใช้ขึ้นโดยไม่ต้องใช้สารเคมีเลย นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่สะดวกและประหยัดอีกด้วย สำหรับบ้านที่ชอบทำอาหารและต้องทิ้งเศษอาหารบ่อยครั้งแนะนำให้ดับกลิ่นห้องครัววิธีนี้เลย
วิธีดับกลิ่นในตู้เย็น สดชื่น ปลอดภัย ไร้สารเคมี
วิธีดับกลิ่นในตู้เย็นให้สดชื่น ปลอดภัย และไร้สารเคมีนั้นมีหลายวิธีที่ง่ายและใช้ของใกล้ตัวได้เลย เพราะการดูแลกลิ่นในตู้เย็นไม่เพียงแต่ช่วยให้บรรยากาศภายในบ้านสดชื่น แต่ยังช่วยรักษาคุณภาพอาหารในตู้เย็นให้นานขึ้นด้วย มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่ทำเองได้และเป็นมิตรต่อสุขภาพ
1. วางเบกกิงโซดาไว้ในตู้เย็น
เบกกิงโซดาเป็นสารธรรมชาติที่มีความสามารถพิเศษในการดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ในตู้เย็นได้ดี แนะนำให้เทเบกกิงโซดาลงในถ้วยใบเล็กแล้ววางไว้ในมุมตู้เย็น โดยเปลี่ยนเบกกิงโซดาทุกๆ 1 เดือน เพื่อประสิทธิภาพการดับกลิ่นที่ดี กลิ่นเหม็นต่างๆ จะค่อยๆ จางหายไป ทำให้บรรยากาศในตู้เย็นสดชื่นมากขึ้นโดยไม่ต้องใช้สารเคมีเลย
2. ใช้มะนาวหั่นครึ่ง
กลิ่นเปรี้ยวสดชื่นของมะนาวช่วยลดกลิ่นอับและกลิ่นเหม็นในตู้เย็นได้ดีมาก แนะนำให้หั่นมะนาวครึ่งลูกแล้ววางไว้ในถ้วย แล้วนำไปวางไว้ในตู้เย็น กลิ่นหอมธรรมชาติจากมะนาวยังมีส่วนช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียบางชนิด จึงทำให้ตู้เย็นสะอาดและปลอดภัยจากแบคทีเรียที่อาจทำให้มีกลิ่นเหม็นสะสม
3. ใช้ขนมปังแผ่นดูดกลิ่น
วิธีง่ายๆ อีกวิธีสำหรับดับกลิ่นตู้เย็นเหม็นอับ หรือเหม็นกลิ่นอาหาร คือใช้ขนมปังแผ่นสดๆ วางไว้ในตู้เย็น หลายคนอาจจะสงสัยว่าขนมปังช่วยดับกลิ่นยังไง? จริงๆ แล้ว เนื้อขนมปังมีโครงสร้างเป็นรูพรุนที่ช่วยดูดซับกลิ่นและกักเก็บโมเลกุลของกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ไว้ภายในได้ดี แต่ควรเปลี่ยนขนมปังใหม่ทุก 2 - 3 วัน เพื่อป้องกันการเน่าเสียและเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดกลิ่นนั่นเอง
4. ใช้ถ่านไม้หรือถ่านกัมมันต์
ถ่านไม้หรือถ่านกัมมันต์เป็นตัวดูดกลิ่นและความชื้นที่มีประสิทธิภาพสูงเลย แนะนำให้นำถ่านก้อนเล็กๆ วางในภาชนะเปิดฝาแล้ววางไว้ในตู้เย็น วิธีนี้ช่วยดูดซับกลิ่นแรงๆ และลดความชื้นที่เป็นสาเหตุของกลิ่นอับได้เป็นอย่างดี แต่ควรเปลี่ยนถ่านทุก 1 เดือน หรือเมื่อกลิ่นเหม็นเริ่มกลับมา เพื่อดับกลิ่นตู้เย็นได้ในระยะยาว
5. ใช้สำลีชุบน้ำมันหอมระเหย
นอกจากการดับกลิ่นไม่พึงประสงค์แล้ว หากต้องการเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นแบบอ่อนๆ แนะนำให้ใช้สำลีชุบหยดน้ำมันหอมระเหยที่ชอบ เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ หรือเปปเปอร์มินต์ แล้ววางไว้ในจุดอับของตู้เย็น กลิ่นหอมนี้จะช่วยปรับอากาศให้ภายในตู้เย็นดูสดชื่นขึ้นโดยไม่ต้องรบกวนกลิ่นอาหารเลย
6. หมั่นทำความสะอาดตู้เย็น
การทำความสะอาดตู้เย็นอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญมาก ควรนำอาหารที่หมดอายุหรือเน่าเสียออกทันที แล้วเช็ดชั้นวางในตู้เย็นด้วยน้ำอุ่นผสมเบกกิงโซดาหรือน้ำส้มสายชูแบบเจือจาง เพื่อช่วยกำจัดคราบและแบคทีเรียที่เป็นแหล่งกำเนิดของกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ การดับกลิ่นด้วยวิธีนี้จะทำให้ตู้เย็นของคุณสะอาด สดชื่น และปลอดภัยต่อสุขภาพได้มากขึ้น
วิธีดับกลิ่นในห้องนั่งเล่น บอกลากลิ่นเหม็นกวนใจ
บอกลากลิ่นเหม็นกวนใจในห้องนั่งเล่น ไม่ว่าจะเป็นการระบายอากาศไปจนถึงการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปลองใช้กัน เพื่อให้ทุกมุมของบ้านหอมสะอาดและน่าอยู่ขึ้นมาอีกครั้ง
1. เปิดหน้าต่างระบายอากาศ
มาเริ่มดับกลิ่นในห้องนั่งเล่นด้วยการเปิดหน้าต่างวันละ 10 - 30 นาที เพื่อช่วยให้อากาศเก่าๆ ที่อับชื้นถูกระบายออกไปให้หมด และช่วยเติมเต็มอากาศบริสุทธิ์เข้ามาแทนที่ การเปิดหน้าต่างระบายอากาศเป็นขั้นตอนสำคัญและเบสิกมากในการลดกลิ่นอับและกลิ่นเหม็นภายในห้องนั่งเล่น ทั้งยังช่วยให้ภาพรวมภายในบ้านรู้สึกโปร่งสบายมากขึ้นอีกด้วย

- ไปหน้าข้อมูลสินค้า
2. เบกกิงโซดากำจัดกลิ่นอับ
อย่างที่เรารู้กันว่า เบกกิงโซดามีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดี คุณสามารถโรยเบกกิงโซดาลงบนพรม หรือในที่ที่มีกลิ่นเหม็น เช่น รองเท้าหรือโซฟา จากนั้นทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้น แล้วให้ทำความสะอาดออก แค่นี้ก็สามารถช่วยลดกลิ่นอับชื้นได้แล้ว ถือเป็นวิธีธรรมชาติที่ปลอดภัยต่อทุกคน และยังไม่ก่อให้เกิดสารเคมีตกค้างอีกด้วย
HÖSTAGILLE/โฮสตายิลเล เทียนหอมในถ้วยแก้วที่ตกแต่งด้วยฟักทองผสมเครื่องเทศและน้ำตาล มอบความอบอุ่นด้วยกลิ่นหอมละมุนของฟักทองและพาย สร้างบรรยากาศน่ารื่นรมย์เหมือนได้กลับบ้านในช่วงเวลาสุดพิเศษในฤดูใบไม้ร่วง พร้อมดื่มด่ำช่วงเวลาดีๆ กับคนที่คุณรักได้อย่างอบอุ่นใจ
3. เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศช่วยกรองฝุ่นละออง เชื้อโรค และกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดี เหมาะมากสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงหรืออยู่ใกล้แหล่งจราจรที่มีทั้งควันและฝุ่น เพราะเครื่องฟอกอากาศจะช่วยสร้างบรรยากาศที่สะอาด สดชื่น และปลอดภัยต่อสุขภาพของทุกคนในบ้าน ช่วยกรองฝุ่นที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และเป็นต้นเหตุของอาการเจ็บป่วย ที่อาจนำไปสู่อันตรายถึงชีวิตได้
4. ทำความสะอาดเป็นประจำ
การทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ เช่น กวาดพื้น ถูพื้น ซักผ้าปูที่นอน ผ้าม่าน และทำความสะอาดห้องน้ำ จะช่วยกำจัดต้นตอของกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยลดฝุ่นและเชื้อโรคที่สะสมในบ้านได้อีกด้วย การดูแลความสะอาดจึงเป็นพื้นฐานสำคัญที่คนอยากมีบ้านที่เต็มไปด้วยกลิ่นสดชื่น ปราศจากเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อร่างกายควรรู้ไว้
บ้านที่มีกลิ่นหอมสดชื่นไม่จำเป็นต้องใช้งบในการดูแลมากมาย แค่หมั่นดูแลความสะอาดและใช้วิธีธรรมชาติช่วยดับกลิ่น เช่น การใช้เบกกิงโซดาดูดซับกลิ่นในตู้เย็น เปิดหน้าต่างระบายอากาศเพื่อเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ รวมถึงใช้เปลือกผลไม้หรือสมุนไพรอย่างตะไคร้ ใบเตย มะนาว และถ่านไม้ที่มีคุณสมบัติช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์
นอกจากนี้ การทำความสะอาดเป็นประจำทั้งห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่นยังช่วยลดกลิ่นสะสมและป้องกันแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นเหม็นได้ วิธีเหล่านี้ล้วนปลอดภัยต่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้บ้านของคุณน่าอยู่และสดชื่นโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีหรืออุปกรณ์ราคาแพง
อำนวยความสะดวกให้คุณพร้อมเลือกใช้อุปกรณ์ช่วยดับกลิ่นได้ง่ายๆ ที่อิเกีย เพื่อบ้านที่สะอาดและมีกลิ่นหอมสดชื่น ให้สุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจได้ผ่อนคลายได้เหมือนกลิ่นในบ้านของคุณ
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
ทําอย่างไรให้ห้องหอมตลอดเวลา?
วิธีทำให้ห้องหอมตลอดเวลาเริ่มจากการดูแลความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ควบคู่กับการระบายอากาศด้วยการเปิดหน้าต่างหรือใช้พัดลมหมุนเวียนอากาศ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เครื่องฟอกอากาศ ปลูกต้นไม้ในห้อง หรือใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นอย่างเป็นธรรมชาติ
มีวิธีไล่ควันออกจากห้องอย่างไรบ้าง?
การไล่ควันออกจากห้องทำได้โดยเปิดหน้าต่างและประตูเพื่อให้อากาศถ่ายเท ใช้พัดลมหรือเครื่องดูดอากาศช่วยเร่งการระบายควันได้ นอกจากนี้ การใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองสามารถช่วยลดกลิ่นและอนุภาคในควันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคนิคเหล่านี้ช่วยทำให้ห้องปลอดควันและสดชื่นขึ้น
แอร์ดูดกลิ่นข้างนอกเข้ามาไหม?
การไล่ควันออกจากห้องทำได้โดยเปิดหน้าต่างและประตูเพื่อให้อากาศถ่ายเท ใช้พัดลมหรือเครื่องดูดอากาศช่วยเร่งการระบายควันได้ นอกจากนี้ การใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองสามารถช่วยลดกลิ่นและอนุภาคในควันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคนิคเหล่านี้ช่วยทำให้ห้องปลอดควันและสดชื่นขึ้น
สัมผัสสินค้า ทดลองใช้งานจริง ที่ IKEA ใกล้คุณ
พบกับสินค้าดีไซน์สวย ราคาคุ้มค่า ที่ให้คุณแต่งบ้านได้ในสไตล์ที่ต้องการทดลองใช้งานจริงก่อนตัดสินใจ