KLAPPA คลัพพา ตุ๊กตามีเสียง, หลากสี/เหลือง

เมื่อทารกลืมตาขึ้นครั้งแรก ระบบประสาทส่วนกลางยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ ดวงตาไม่สามารถรับภาพที่ไกลกว่า 20-40 ซม. ซึ่งอยู่ในระยะที่มองเห็นแม่ที่กำลังให้นมได้ แต่การมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กด้วยการแสดงออกต่างๆ เช่น การใช้สี รูปร่าง สัมผัส และเสียง การพัฒนาสมองของเด็กก็จะได้รับการกระตุ้น Krister Svensson ผู้ศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็ก การเล่น และการเรียนรู้มาหลายปีได้อธิบายไว้ “แต่การพักผ่อนก็สำคัญไม่น้อยไปกว่าการกระตุ้น สมองต้องได้พักจากสิ่งที่ได้เรียนรู้บ้างเพื่อจัดระเบียบและเชื่อมโยงทุกอย่างเข้ากับสิ่งที่คิดก่อนหน้านี้”

ของเล่นที่ปรับสำหรับทารกตัวเล็กนี้ทำให้เด็กรับรู้ถึงประสาทสัมผัสต่างๆ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสมอง แต่อะไรคือสิ่งที่ชวนให้เด็กสนใจอยากเล่นจริงๆ "บ่อยครั้งสิ่งที่ชวนให้อยากเล่นคือสิ่งที่โดดเด่นท่ามกลางสิ่งรอบตัวและดึงดูดความสนใจ" Krister กล่าว "อาจจะเป็นจุดสีดำบนยีราฟสีเหลือง หรือเสียงจากของเล่นเขย่า" ดีไซเนอร์ Malin Unnborn ผู้ออกแบบคอลเล็คชั่นของเล่น KLAPPA/คลัพพา อยากค้นหาว่ามีรายละเอียดที่สำคัญอะไรบ้างที่เสริมสร้างความอยากรู้อยากเห็นและกระตุ้นให้เด็กๆ อยากเล่น "ยกตัวอย่างเช่น สำหรับหนังสือภาพและลูกบอล ฉันใช้สีที่ตัดกันอย่างชัดเจน และผ้าที่มีโครงสร้างต่างกัน เช่น ผ้าผิวมันและผิวด้าน เนื้อนุ่มและและเนื้อหยาบ" สำหรับผ้าห่มชวนกอด แผ่นรองคลาน และเบาะเบบี้ยิม Malin ได้สร้างครีบฉลาม หู และรายละเอียดอื่นๆ ที่ยื่นออกมา เพื่อให้มือขี้สงสัยน้อยๆ ได้จับ

KLAPPA/คลัพพา กลายเป็นโลกแห่งสิงสาราสัตว์ พืช และดวงดาวจากจินตนาการที่พร้อมให้สำรวจ "มันอาจจะไม่สำคัญสำหรับเด็กทารกขนาดนั้นก็ได้ที่มีลายปูอยู่ตรงขอบแผ่นรองคลาน" Malin กล่าว "แต่ก็เชิญชวนให้เด็กที่โตกว่ามาเล่นกับน้องได้" Krister รู้สึกว่าของเล่นยังมีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กในการเข้าสังคม "ของเล่นจะทำหน้าที่ในการโต้ตอบทางสังคมระหว่างคุณกับลูก และคุณเองเป็นคนที่ทำให้ของเล่นมีชีวิตและมีความหมายขึ้นมา" ยกตัวอย่างเช่น การตั้งชื่อให้กับของเล่นเขย่าว่า "เจ้ายีราฟสีเหลือง" คุณสามารถพูดถึงมันได้ และเมื่อคุณได้เป็นคนถือยีราฟ ความเข้าใจในตัวเด็กก็จะเกิดขึ้นเนื่องจากพวกเขาสามารถโยงตัวเองเข้ากับบริบทได้ การเล่นเป็นการโต้ตอบขั้นพื้นฐาน และเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับพัฒนาการในมนุษย์ Krister กล่าว "เพื่อที่จะเป็นมนุษย์แล้ว เราต่างต้องมีการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น"