Sustainable Design การปฏิวัติที่อยู่อาศัย เนรมิตบ้านให้สวยอย่างยั่งยืน

Sustainable Design ออกแบบวันนี้ เพื่อโลกที่ดีกว่าในวันหน้า

การออกแบบบ้านสไตล์ Sustainable Design มีความสำคัญมากกว่าที่คิด สร้างประโยชน์ให้ตั้งแต่ตัวผู้อาศัยเองไปจนถึงระดับความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ

ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ

Sustainable Design หรือ Eco Design คือการออกแบบที่คำนึงถึงความยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด เน้นใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติและหลีกเลี่ยงการก่อมลภาวะ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการเลือกใช้ไม้จากแหล่งที่มีการปลูกทดแทนอย่างเป็นระบบแทนการตัดไม้จากป่าธรรมชาติ นอกจากนี้ Sustainable Design ยังส่งเสริมการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในงานออกแบบ ซึ่งไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัดเท่านั้น แต่ยังใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย การคำนึงถึงความยั่งยืนในทุกขั้นตอนออกแบบจึงเป็นแนวทางสำคัญเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไป

ลดการปล่อยคาร์บอนและพลังงาน

Eco Design คือตัวช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านการปรับปรุงกระบวนการผลิตและการออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสะอาดที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ นอกจากนี้ การออกแบบบ้านแนว Sustainable Design ช่วยประหยัดพลังงานด้วยการออกแบบให้ใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติให้มากที่สุดเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้าส่องสว่างในเวลากลางวัน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่งนั่นเอง

ส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

Sustainable Design เป็นการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยลดปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในกรณีของสีทาผนังที่ปราศจากสาร VOC (Volatile Organic Compounds) ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายที่ส่งผลเสียต่อคุณภาพอากาศภายในอาคาร การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สีที่ไม่มีส่วนผสมของสาร VOC จึงช่วยสร้างสภาพแวดล้อมภายในที่ปลอดภัยและเอื้อต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยด้วย

ช่วยลดต้นทุนระยะยาว

การออกแบบด้วย Sustainable Design อาจใช้งบประมาณเริ่มต้นที่สูงกว่าการออกแบบทั่วไป แต่เมื่อพิจารณาในระยะยาวแล้วกลับช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า โดยเฉพาะในด้านค่าสาธารณูปโภคที่ลดลงจากการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือก นอกจากนี้ การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงที่มีความทนทานและอายุการใช้งานยาวนานยังช่วยลดค่าใช้จ่ายซ่อมแซมและบำรุงรักษาในอนาคตได้อีกด้วย ทำให้การออกแบบอย่างยั่งยืนเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในการลงทุนระยะยาว

Sustainable Design จากแนวคิดสู่การปฏิบัติ

เพื่อให้การตกแต่งบ้านสไตล์ Sustainable Design เป็นรูปเป็นร่างและใช้งานได้จริง มาดูนิยามของการออกแบบสไตล์นี้กันดีกว่าว่าควรประกอบด้วยอะไรบ้าง

1. เฟอร์นิเจอร์ต้องทำจากวัสดุธรรมชาติ

การตกแต่งบ้านในสไตล์ Sustainable Design เน้นการสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุรีไซเคิล เช่น ไม้ ไม้สังเคราะห์ หวาย ผ้าฝ้าย และผ้าลินิน ซึ่งวัสดุเหล่านี้นอกจากจะสร้างความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติแล้วยังมีคุณสมบัติทนทาน ปราศจากสารเคมี สามารถย่อยสลายได้ง่ายและนำกลับมารีไซเคิลใช้ใหม่ได้ นอกจากนี้ การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์ประหยัดพื้นที่จะช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งและทำให้บ้านดูกว้างขวางขึ้น ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนและการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพไปด้วยแนะนำผลิตภัณฑ์ Green Design BJÖRKSNÄS/ยอร์กสแนส ตู้ไม้เก็บของสไตล์คลาสสิก ผลิตจากวัสดุจากธรรมชาติที่คงทน สัดส่วนลงตัว เข้ากันได้กับทุกห้องในบ้าน NÅLBLECKA/นัวล์เบลคคา ชั้นไม้สำหรับเก็บของเล็กๆ หรือจะนำไปวางเครื่องปรุงในห้องครัวก็ได้ และ NORDEN/นูร์เดน โต๊ะพับข้างไม้เบิร์ช ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์บ้านที่มีพื้นที่จำกัด แต่ก็ยังมีฟังก์ชันครบครัน

2. อย่าลืมสร้างพื้นที่สีเขียวในบ้าน

การเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านด้วยต้นไม้กระถางขนาดเล็กเป็นวิธีที่ช่วยสร้างบรรยากาศ Sustainable Design ได้อย่างลงตัว เนื่องจากเป็นการนำธรรมชาติเข้ามาอยู่ใกล้ชิด ช่วยให้บ้านน่าอยู่และสร้างความรู้สึกผ่อนคลายกับผู้อยู่อาศัยมากขึ้น ต้นไม้บางชนิดยังมีคุณสมบัติในการกรองฝุ่นและเพิ่มความชื้นในอากาศได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้คุณภาพอากาศภายในบ้านและบริเวณโดยรอบดีขึ้น อีกทั้งยังลดความเสี่ยงในการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจได้อีกด้วย

3. ต้องมีหน้าต่างเปิดรับแสง

การออกแบบที่ยั่งยืนรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากคือการติดตั้งหน้าต่างตามจุดต่างๆ ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการใช้หน้าต่างบานใหญ่เพียงจุดเดียวหรือกระจายหน้าต่างหลายบานในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเพิ่มแสงสว่างและการไหลเวียนของลมธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้าน การออกแบบลักษณะนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้บ้านดูโปร่งและกว้างขวางขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีลดใช้พลังงานไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวันผ่านการใช้แสงจากธรรมชาติได้อีกด้วยอย่างที่รู้กันว่าประเทศไทยเป็นเมืองร้อนแทบตลอดทั้งปี มาเปิดรับแสงธรรมชาติแบบพอดีๆ ด้วย LILL/ลิล ผ้าม่านโปร่งเย็บสำเร็จ ดีไซน์เรียบง่ายดูอบอุ่น เหมาะกับวันที่แดดแรงแต่ยังอยากได้แสงจากธรรมชาติอยู่ ใช้แขวนกับราวม่านได้โดยตรง หรือจะตัดให้ยาวตามต้องการได้โดยไม่ต้องเย็บชายผ้าเลย

4. เน้นโทนสีบ้านแบบ Earth Tone หรือโทนสีเย็น

แต่งบ้านตามแนวคิด Sustainable Design เน้นใช้โทนสีเย็นที่มีคุณสมบัติกันความร้อน เช่น สีเทาอ่อน สีฟ้า หรือสีเขียว ซึ่งช่วยดูดซับความร้อนและทำให้บ้านเย็นสบายขึ้น ส่งผลให้ลดใช้พลังงานจากเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้สีโทนเย็นหรือ Earth Tone นอกจากจะสวยงามแล้วยังช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบายตาและผ่อนคลาย ลดความรู้สึกอึดอัด การออกแบบที่ดีควรคำนึงถึงการใช้โทนสีที่กลมกลืนกันทั้งสีเฟอร์นิเจอร์ ผนัง และกำแพง เพื่อสร้างบรรยากาศที่เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วบ้าน

5. ออกแบบบ้านให้แต่ละบริเวณเชื่อมต่อกัน

การออกแบบบ้านแบบ Sustainable Design ที่เน้นการเชื่อมต่อพื้นที่ต่างๆ เข้าด้วยกันนับเป็นแนวคิดที่ยั่งยืนและคุ้มค่าในหลายด้าน เริ่มตั้งแต่ลดการใช้วัสดุก่อสร้างที่ไม่จำเป็นอย่างผนังกั้นห้องหรือกำแพง ซึ่งนอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วยังทำให้พื้นที่ดูกว้างขวางและโปร่งสบายตามากขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณที่เชื่อมต่อกันระหว่างห้องครัว ห้องทานอาหาร และห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สมาชิกในครอบครัวสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่างสะดวกสบายที่สำคัญไปกว่านั้น การออกแบบในลักษณะนี้ยังส่งผลดีต่อการถ่ายเทอากาศภายในบ้าน เนื่องจากไม่มีผนังหรือสิ่งกีดขวางที่เป็นอุปสรรคต่อการไหลเวียนของลม ทำให้ความร้อนที่สะสมภายในบ้านสามารถระบายออกได้ดี ส่งผลให้บรรยากาศโดยรวมภายในบ้านเย็นสบายและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

6. เลือกรีโนเวทแทนการทุบทำใหม่

การรีโนเวทเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางที่ต้องการปรับปรุงพื้นที่เดิมให้ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนสูงเหมือนการรื้อและสร้างใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้ การรีโนเวทยังถือเป็นแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้วัสดุก่อสร้างและทรัพยากรที่สิ้นเปลือง และลดการปล่อยพลังงานและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการก่อสร้างใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7. ติดโซลาร์เซลล์ พลังงานจากธรรมชาติ

การติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้านเป็นตัวอย่างที่ดีของการออกแบบเพื่อความยั่งยืน ด้วยการใช้พลังงานหมุนเวียนจากแสงอาทิตย์มาผลิตกระแสไฟฟ้า ลดมลภาวะทางอากาศที่เกิดจากการใช้พลังงานไฟฟ้าแบบเดิมประเทศไทยเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับติดตั้งโซลาร์เซลล์ เนื่องจากมีแสงแดดจัดตลอดทั้งปี ระบบนี้ไม่เพียงแต่ผลิตไฟฟ้าในเวลากลางวัน แต่ยังกักเก็บพลังงานไว้ใช้ในเวลากลางคืนได้อีกด้วย นอกจากประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว การติดตั้งโซลาร์เซลล์ยังช่วยลดความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้บ้านเย็นสบายขึ้น และที่สำคัญคือช่วยประหยัดค่าไฟในระยะยาว