ไอเดียแต่งร้านส้มตําเล็กๆ ให้โดนใจลูกค้า อยากกลับมาซ้ำอีกครั้ง!
ร้านส้มตำชื่อดังที่ทุกคนพูดถึง… อาจไม่ใช่แค่รสชาติที่เด็ดอร่อย แต่อาจเป็นเพราะการแต่งร้านที่กลับชวนให้หลงรักตั้งแต่ก้าวแรก ไอเดียแต่งร้านส้มตำเล็กๆ ให้ลูกค้าอยากเข้า ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้และวัสดุธรรมชาติ ใช้เฟอร์นิเจอร์เล็ก ขนาดกะทัดรัด จัดโซนให้ชัดเจน พร้อมใช้ของตกแต่งที่สื่อถึงความเป็นอีสาน ด้วยบรรยากาศแบบนี้ยิ่งทำให้ใครมาก็ประทับใจ วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกเคล็ดลับการแต่งร้านส้มตำเล็กๆ ให้กลายเป็นมุมโปรดของลูกค้าทุกคนกัน!

สาระน่าสนใจ
- การตกแต่งร้านส้มตำมีผลโดยตรงต่อความรู้สึกของลูกค้า โทนสี วัสดุ และบรรยากาศที่อบอุ่นช่วยดึงดูดให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจและอยากนั่งนานขึ้น เพิ่มโอกาสในการกลับมาซื้อซ้ำอย่างไม่รู้ตัว
- แม้ร้านจะเล็กแค่ไหน ก็สามารถจัดสรรพื้นที่ได้อย่างลงตัว ไอเดียแต่งร้านส้มตำเล็กๆ เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชันและนำผนังหรือเพดานมาใช้ประโยชน์ เพื่อไม่ให้ร้านดูแออัดหรือรกตา
- ไอเดียแต่งร้านส้มตำ ให้เน้นความเป็นเอกลักษณ์ของร้านด้วยการใช้ของตกแต่งที่ผสมผสานวัฒนธรรมอีสาน เช่น ครกไม้หรือผ้าขาวม้า จะช่วยสร้างภาพจำที่ชัดเจนและเพิ่มเสน่ห์ให้ร้าน
- นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว บรรยากาศรอบตัวก็สำคัญ เสียง กลิ่น และมุมถ่ายรูปร้านส้มตำเก๋ๆ จะช่วยเสริมประสบการณ์และเป็นการตลาดแบบปากต่อปากอย่างดี
- มาแต่งร้านส้มตำเล็กๆ ให้ดูน่าเข้าด้วยไอเดียดีๆ จากเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งหลากสไตล์จากอิเกีย ที่ใช้งานได้จริงและสวยงามในทุกมุม

- ไปหน้าข้อมูลสินค้า
มัดรวม! 10 ไอเดียแต่งร้านส้มตำเล็กๆ ให้น่าเข้า
ก่อนจะลงมือแต่งร้านส้มตำเล็กๆ ให้โดดเด่นและน่านั่ง เรามีไอเดียง่ายๆ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและเป็นเอกลักษณ์ในแบบของคุณ พร้อมวิธีเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่จะทำให้ร้านดูน่าสนใจมากขึ้น มาเริ่มกันเลย!
1. ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้และวัสดุธรรมชาติ
ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้และวัสดุธรรมชาติไอเดียแต่งร้านส้มตำเล็กๆ ให้เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้จริงหรือไม้เทียม เพื่อเติมความอบอุ่นและความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติให้กับร้านไม้ช่วยสร้างบรรยากาศแบบไทยๆ ที่เข้ากับเมนูส้มตำได้อย่างลงตัว เพื่อให้ชิคเพิ่มขึ้น ลองผสมผสานวัสดุอย่างหวายหรือผ้าทอพื้นเมือง เช่น ผ้าขาวม้า เพื่อให้ร้านมีเอกลักษณ์และความน่าสนใจ ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายและอยากแวะมานั่งเล่นนานๆ อีกด้วย
2. ใช้โทนสีอบอุ่น-ธรรมชาติ
การเลือกใช้โทนสีอบอุ่นในสไตล์เอิร์ธโทน เช่น น้ำตาลอ่อน หรือสีไม้ธรรมชาติ จะช่วยให้ร้านดูสบายตาและผ่อนคลาย เหมาะกับบรรยากาศแบบบ้านๆ ที่เข้ากับเมนูส้มตำและอาหารอีสานอย่างลงตัว โทนสีเหล่านี้ยังช่วยให้พื้นที่เล็กๆ ไม่รู้สึกอึดอัดหรือแคบเกินไป แต่กลับรู้สึกโปร่งและอบอุ่น ส่งเสริมให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนนั่งทานข้าวอยู่ที่บ้านตัวเอง เพิ่มความเป็นกันเองให้ร้านมากขึ้น
3. ใช้แสงธรรมชาติให้มากที่สุด
ถ้าร้านส้มตำของคุณมีหน้าต่างหรือพื้นที่เปิดโล่ง อย่าลืมเปิดรับแสงแดดธรรมชาติเข้ามาให้เต็มที่ แสงธรรมชาติช่วยเพิ่มความโปร่งสบาย ทำให้ร้านดูโล่งและกว้างขึ้นมาก นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาวอีกด้วย การตกแต่งด้วยผ้าม่านบางเบาหรือบานเกล็ดก็ช่วยกรองแสงให้พอดี ป้องกันไม่ให้ร้านร้อนเกินไป พร้อมสร้างบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองให้กับลูกค้าในทุกช่วงเวลาอีกด้วย
4. ใช้เฟอร์นิเจอร์เล็ก ขนาดกะทัดรัด
สำหรับร้านส้มตำที่มีพื้นที่จำกัด การเลือกใช้โต๊ะและเก้าอี้ขนาดเล็กหรือกะทัดรัด เช่น โต๊ะและเก้าอี้ไม้แบบพับได้ หรือม้านั่งยาวแบบประหยัดพื้นที่ จะช่วยให้จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้ร้านดูโปร่งและไม่แออัด อีกทั้งช่วยรองรับลูกค้าในช่วงเวลาที่ร้านคนแน่นได้ดีขึ้น ควรเน้นเฟอร์นิเจอร์ที่น้ำหนักเบาและง่ายต่อการเคลื่อนย้าย เพื่อช่วยให้การจัดพื้นที่และทำความสะอาดสะดวกขึ้น พร้อมสร้างบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองในทุกมุมของร้าน
โต๊ะพับข้าง NÄSINGE/แนซิงเง ที่มาพร้อมดีไซน์ที่เก็บของในตัว มาพร้อมท็อปโต๊ะที่พับได้ทั้งสองข้าง ให้คุณปรับขนาดโต๊ะได้อย่างยืดหยุ่น รองรับได้ตั้งแต่ 2 - 4 ที่นั่งตามความต้องการใช้งาน
5. จัดโซนให้ชัดเจน แม้ร้านจะเล็ก
แม้ร้านจะมีพื้นที่จำกัด แต่การจัดแบ่งโซนอย่างเป็นระเบียบ เช่น โซนสำหรับสั่งอาหาร โซนสำหรับนั่งทาน และโซนรออาหาร จะช่วยให้ร้านดูเรียบร้อยและจัดการได้ง่ายขึ้น ลูกค้าจะไม่สับสนว่าควรไปที่ไหน ช่วยลดความวุ่นวายและเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้บริการ นอกจากนี้ยังช่วยให้พนักงานทำงานได้คล่องตัวและรวดเร็วขึ้น เพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าในทุกช่วงเวลาที่มา
6. ใช้ของตกแต่งที่สื่อถึงความเป็นอีสาน
การเลือกใช้ของตกแต่งที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นอีสาน เช่น การนำครกสวยๆ มาวางโชว์ หรือใช้ผ้าขาวม้าเป็นผ้าปูโต๊ะ จะช่วยเสริมบรรยากาศท้องถิ่นอย่างมีเสน่ห์ นอกจากนี้ การประดับกำแพงด้วยเครื่องจักสานหรือของใช้พื้นบ้าน ยังทำให้ร้านดูมีเรื่องราวและอบอุ่นมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างจุดขายที่โดดเด่น แต่ยังช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ใกล้ชิดกับวัฒนธรรมอีสานอย่างแท้จริง เพิ่มความน่าจดจำให้กับร้านได้ดี
7. ตกแต่งด้วยต้นไม้เล็กๆ เพิ่มชีวิตชีวา
การเพิ่มต้นไม้เล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นกระถางต้นไม้จิ๋วบนโต๊ะ หรือไม้แขวนประดับริมร้าน จะช่วยเติมความสดชื่นและชีวิตชีวาให้กับบรรยากาศร้านส้มตำเล็กๆ มากขึ้น ต้นไม้สดช่วยผ่อนคลายสายตา ทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายและผ่อนคลายมากขึ้น นอกจากความสวยงามแล้ว ต้นไม้บางชนิดยังช่วยกรองฝุ่นและลดกลิ่นอาหารภายในร้านได้ ทำให้บรรยากาศโดยรวมสะอาดและน่าอยู่ขึ้น
8. ตั้งมุมครัวโชว์ “ตำสด”
ไอเดียแต่งร้านส้มตำ ให้จัดมุมครัวแบบเปิด หรือมุมตำส้มตำโชว์ให้ลูกค้าเห็นขั้นตอนการทำอาหารแบบสดใหม่ ช่วยสร้างความน่าสนใจและเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับร้าน สีสันจากมะละกอสับสด พริกสด และมะเขือสด จะชวนให้รู้สึกอยากลิ้มลองมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องความสะอาดและคุณภาพอาหาร เพราะลูกค้าจะเห็นกระบวนการทำอย่างโปร่งใส มุมนี้จึงกลายเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดทั้งสายชอบกินและสายชอบความแปลกใหม่ให้เข้าร้านได้เยอะ
9. มีป้ายร้านเก๋ๆ ที่ดึงดูด
การทำป้ายร้านไม้สไตล์มินิมอล ด้วยลายมือหรือฟอนต์ที่ดูเป็นกันเอง จะช่วยสร้างความโดดเด่นและบ่งบอกบุคลิกของร้านชัดเจน เพิ่มลูกเล่นด้วยการนำเมนูเด็ด เช่น “ตำถาดบั้งไฟ” หรือ “ตำทะเลถาดยักษ์” เข้ามาประดับบนป้าย จะทำให้คนที่เดินผ่านไปมาสนใจและอยากแวะมาลองชิมจนไม่อาจผ่านไปง่ายๆ ป้ายที่มีเอกลักษณ์แบบนี้ยังช่วยทำให้ลูกค้าจดจำร้านได้ดีและกลายเป็นจุดขายที่ช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกทางหนึ่ง
10. มีมุมถ่ายรูปสวยๆ
การสร้างมุมถ่ายรูปที่น่ารักและโดดเด่น เช่น ผนังตกแต่งลายส้มตำสดใส หรือโลโก้ร้านที่ออกแบบให้เป็นมิตรและจดจำง่าย จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพและแชร์ต่อบนโซเชียลมีเดียได้แบบไม่รู้ตัว มุมถ่ายรูปแบบนี้จะกลายเป็นการตลาดแบบปากต่อปากที่ทรงพลังโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณาเพิ่มเลย ช่วยเพิ่มการมองเห็นร้านและดึงลูกค้าใหม่ๆ ให้รู้จักร้านได้มากขึ้นอีกด้วย

- ไปหน้าข้อมูลสินค้า
โทนสีและสไตล์การตกแต่งร้านส้มตำ
การเลือกโทนสีและสไตล์การตกแต่งที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญของการสร้างบรรยากาศร้านส้มตำให้โดดเด่นและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็นการผสมผสานความเป็นท้องถิ่นกับความทันสมัย หรือการใช้สีและวัสดุธรรมชาติที่ช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร้าน เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเพลิดเพลินและอยากกลับมาอีกครั้ง
สไตล์อีสานโมเดิร์น (Modern Isan Style)
ไอเดียแต่งร้านส้มตำสไตล์อีสานโมเดิร์นเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสานกับความทันสมัย ผ่านการใช้วัสดุท้องถิ่นอย่างไม้ไผ่ กระติ๊บข้าวเหนียว เสื่อ หรือเครื่องจักสาน มาตกแต่งร้านในลักษณะที่ดูสะอาด เรียบง่าย แต่ยังคงกลิ่นอายบ้านๆ อบอุ่นแบบดั้งเดิม ถือเป็นสไตล์ที่ตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและสร้างบรรยากาศเป็นกันเอง เหมาะกับร้านส้มตำเล็กๆ ที่เน้นความเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์เฉพาะตัว
NÄSINGE/แนซิงเง โต๊ะไม้ย้อมสีน้ำตาลเข้มแบบวีเนียร์บีช ดีไซน์ปรับขยายได้ง่าย โต๊ะ 4 ที่นั่งสามารถเพิ่มเป็น 6 ที่นั่งได้ทันทีด้วยท็อปส่วนขยายที่ซ่อนอยู่ใต้โต๊ะ เมื่อต้องการใช้งานก็แค่ดึงออกมาเพิ่มพื้นที่ให้กว้างขึ้น เหมาะสำหรับรองรับแขกเพิ่มได้อย่างสะดวก พร้อมด้วยลวดลายไม้ธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้มีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว
สไตล์มินิมอลอบอุ่น (Warm Minimal Style)
สไตล์มินิมอลอบอุ่นเน้นความเรียบง่ายแต่ยังคงความอบอุ่นด้วยการใช้สีเอิร์ธโทนอย่างสีขาว ครีม และน้ำตาลอ่อน ที่ช่วยให้ร้านดูสะอาดตาและรู้สึกสบายใจ เฟอร์นิเจอร์ไม้ดีไซน์เรียบๆ ตัดกับต้นไม้กระถางเล็กๆ ช่วยเติมความสดชื่นและความเป็นธรรมชาติ บรรยากาศโดยรวมจึงโปร่งโล่ง เหมาะสำหรับร้านส้มตำเล็กๆ ในเมืองที่ต้องการความรู้สึกผ่อนคลายและไม่อึดอัด ให้ลูกค้ารู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านแต่ยังคงความทันสมัยอยู่
สไตล์ลอฟต์อินดัสเทรียล (Loft/Industrial Style)
สไตล์ลอฟต์อินดัสเทรียลเน้นการใช้วัสดุดิบอย่างผนังปูนเปลือย ท่อเหล็ก เก้าอี้เหล็ก และโต๊ะไม้หนา ให้บรรยากาศเท่และมีเสน่ห์แบบลอฟต์อินดัสเทรียล โทนสีหลักจะเป็นเทา ดำ และน้ำตาล ซึ่งช่วยเสริมความรู้สึกแข็งแกร่งและทันสมัย สำหรับการเพิ่มความน่าสนใจและชีวิตชีวา แนะนำให้ติดป้ายเมนูที่เขียนด้วยลายมือหรือใช้ไฟนีออนสีสดใส เพื่อดึงดูดสายตาลูกค้าและทำให้ร้านดูมีสไตล์เฉพาะตัวมากขึ้น เหมาะกับคนชอบอะไรเท่ๆ และบรรยากาศแบบไม่เป็นทางการ
สไตล์ทรอปิคอลไทย (Tropical Thai Style)
ไอเดียแต่งร้านส้มตำสไตล์ทรอปิคอลไทยให้บรรยากาศเหมือนนั่งทานอาหารอยู่ในสวนร่มรื่นใต้ต้นไม้ใหญ่ ใช้องค์ประกอบธรรมชาติอย่างร่มสาด ผ้าขาวม้า หรือผ้าทอพื้นเมือง มาตกแต่งร่วมกับต้นไม้เขียวๆ เช่น กล้วย ต้นปาล์ม หรือไม้ใบขนาดเล็กต่างๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่นและความผ่อนคลาย เหมาะกับร้านที่มีพื้นที่เปิดโล่งหรือลานกลางแจ้ง ช่วยสร้างความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ และให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์แบบสบายๆ ในบรรยากาศที่สวยงามและไม่ร้อนจนเกินไป
VIHALS วีฮาลส์/VIHALS วีฮาลส์ แม้จะขยายโต๊ะให้ใหญ่ขึ้น ขาโต๊ะยังอยู่ที่มุม ช่วยให้มีพื้นที่เหลือเฟือตรงกลางสำหรับวางเก้าอี้ได้สบาย เบาะเก้าอี้บุนวมช่วยกระจายน้ำหนักและลดแรงกดที่กระดูก ทำให้นั่งสบายขึ้น ขยายโต๊ะเพื่อเพิ่มที่นั่งได้เองอย่างรวดเร็ว ส่วนโครงสร้างใช้เหล็กกล้าที่แข็งแรงและทนทาน
สไตล์สตรีทฟู้ด (Street Food Style)
สไตล์สตรีทฟู้ดได้รับแรงบันดาลใจจากร้านอาหารริมทางที่คึกคักแต่ถูกพัฒนาให้ดูสะอาดและมีคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน การใช้โต๊ะ-เก้าอี้สังกะสีที่แข็งแรง ป้ายไฟสีสดใส และเครื่องประดับอย่างตะกร้าใส่พริกมะนาว ช่วยสร้างบรรยากาศสนุกสนานและมีชีวิตชีวา เหมาะกับกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและคนทำงานที่ต้องการความรวดเร็วแต่ยังอยากได้ความรู้สึกเป็นกันเอง ร้านในสไตล์นี้ชวนให้รู้สึกถึงความหลากหลายและความเร้าใจของสตรีทฟู้ดซีนในเมืองใหญ่
NISSAFORS/นิสซาฟอช รถเข็นสีเขียวอ่อนขนาดกะทัดรัด เติมพื้นที่ใช้งานได้ทั้งเก็บของในโถงทางเดินหรือเป็นโต๊ะข้างเตียง โครงสร้างแข็งแรง เคลื่อนย้ายง่ายด้วยล้อเลื่อน 4 ล้อ ผ่านการทดสอบมาตรฐานความทนทานสูง พื้นตะแกรงช่วยระบายอากาศ ลดฝุ่นและความชื้น ทำความสะอาดง่ายและจัดเก็บของได้สะดวก
สไตล์โบฮีเมียน (Bohemian Style)
จัดร้านส้มตำให้น่าเข้าสไตล์โบฮีเมียนเน้นการใช้ผ้าพิมพ์ลายสีสันสดใส หมอนอิงหลากสี และของตกแต่งแฮนด์เมดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาช่วยเติมเต็มบรรยากาศให้ร้านดูสบายๆ และมีความแปลกตาไม่เหมือนใคร การจัดสรรพื้นที่ในร้านจึงเน้นความชิลและผ่อนคลาย เหมาะกับร้านส้มตำที่อยากให้ลูกค้ารู้สึกเป็นกันเองเหมือนนั่งเล่นที่บ้านเพื่อน หรือแชร์ช่วงเวลาดีๆ ในบรรยากาศที่อบอุ่นและสดใสไปพร้อมกัน
สไตล์คาเฟ่โมเดิร์น (Modern Café Style)
สไตล์คาเฟ่โมเดิร์นดึงดูดด้วยบรรยากาศอบอุ่นและทันสมัยแบบคาเฟ่สายกาแฟ แต่เสิร์ฟส้มตำแทน โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ดีไซน์เรียบง่ายและไฟ Warm Light ที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล เหมาะกับลูกค้าที่ชอบถ่ายรูป เมนูส้มตำในร้านจึงมีการจัดจานสวยงาม ชวนถ่ายภาพและแชร์ลงโซเชียล ร้านที่ตกแต่งในสไตล์นี้ตอบโจทย์ลูกค้าสายรีวิวและคนรุ่นใหม่ที่มองหาร้านนั่งชิลพร้อมบรรยากาศดีๆ ในเมือง
LISABO/ลิซาโบ โต๊ะสุดทนทานและมีลายไม้สวยงาม สีจะเปลี่ยนเป็นโทนฟางข้าวตามกาลเวลา พื้นโต๊ะปิดผิวด้วยวีเนียร์ไม้แอช ส่วนขาทำจากไม้เบิร์ชจริง ช่วยเพิ่มความอบอุ่นและความเป็นธรรมชาติ พร้อมผ่านการทดสอบความมั่นคงและความปลอดภัยระดับสูง ทนทานสำหรับการใช้งานประจำวันได้ยาวนานหลายปี

- ไปหน้าข้อมูลสินค้า
ไอเดียแต่งร้านส้มตำเล็กๆ ให้ดูน่าเข้าและมีเสน่ห์ ควรเน้นใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ และโทนสีอบอุ่นที่ช่วยสร้างบรรยากาศเป็นกันเอง การจัดสรรพื้นที่ด้วยเฟอร์นิเจอร์ขนาดกะทัดรัดและการแบ่งโซนที่ชัดเจน จะทำให้ร้านดูโปร่งและสะดวกสบาย ตกแต่งด้วยของพื้นถิ่นหรือของตกแต่งที่สะท้อนความเป็นอีสาน เพิ่มต้นไม้เล็กๆ เพื่อความสดชื่น และตั้งมุมครัวโชว์หรือมุมถ่ายรูปเก๋ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า สไตล์การตกแต่งหลากหลายตั้งแต่โมเดิร์นอีสาน มินิมอลอบอุ่น ไปจนถึงลอฟต์และสตรีทฟู้ด ช่วยให้ร้านมีเอกลักษณ์และน่าจดจำ ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม
เติมความน่ารักและอบอุ่นให้ร้านส้มตำเก๋ๆ ของคุณด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งจากอิเกีย ที่ทั้งใช้งานได้จริงและดีไซน์สวยทันสมัย ช่วยจัดสรรพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างบรรยากาศเป็นกันเองที่ลูกค้าประทับใจในทุกมุมของร้าน
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
ร้านส้มตำเล็กๆ มีขนาดพื้นที่เท่าไร?
ร้านส้มตำเล็กๆ ส่วนใหญ่มีพื้นที่ประมาณ 10 - 20 ตารางเมตร ซึ่งเพียงพอสำหรับจัดวางโต๊ะเก้าอี้กะทัดรัดและพื้นที่ครัวเล็กๆ การจัดสรรพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพจึงสำคัญเพื่อให้ร้านดูไม่แออัดและลูกค้ารู้สึกสบาย
ร้านส้มตำแบบ Open Air หรือห้องแอร์ดีกว่ากัน?
ร้านส้มตำแบบ Open Air เหมาะกับบรรยากาศสบายๆ ชิลๆ และประหยัดต้นทุน ในขณะที่ร้านห้องแอร์ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกเย็นสบายโดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อน การเลือกแบบไหนขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายและทำเลที่ตั้งของร้าน
ควรตั้งร้านส้มตำตรงไหนถึงจะดี?
ทำเลที่ดีคือบริเวณที่คนผ่านเยอะ เช่น ใกล้ตลาด ชุมชน หรือแหล่งคนทำงาน เพราะช่วยเพิ่มโอกาสให้ร้านเป็นที่รู้จักและมีลูกค้าเข้าร้านสม่ำเสมอ ควรเลือกที่ที่มีที่จอดรถสะดวกและเข้าถึงง่ายด้วย
เปลี่ยนพื้นที่ธุรกิจของคุณให้สมบูรณ์แบบ
ให้เราช่วยคุณออกแบบพื้นที่ทำงาน หรือร้านค้าให้มีสไตล์ด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่หลากหลายจาก IKEA